General

ทุจริตเงินบัตรทอง คืบ!!ตรวจเอกสารแล้ว 18 คลินิก 2 แสนฉบับ จ่อคิวอีก 65 คลินิก

ทุจริตเงินบัตรทอง สปสช.เผยตรวจเอกสาร 18 คลินิก รวม 2 แสนฉบับ แล้วเสร็จ เร่งทำงานทั้งวันทั้งคืน ตวรจที่เหลืออีก 63 คลินิก รวมเอกสารกว่า 65 แสนฉบับ

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ทุจริตเงินบัตรทอง ว่า เมื่อสันที่ 24 กรกฏาคม สปสช.ได้เชิญกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปราม เข้าร่วมหารือ ถึงการดำเนินการกับ 18 คลินิก ที่มีการทุจริต งบประมาณ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และขยายผล กับคลินิกที่ตรวจพบ การทุจริตอีก 63 แห่งเพิ่มเติม

ทุจริตเงินบัตรทอง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ต้องใช้ระยะเวลา ในการตรวจสอบมาก เนื่องจากมีเอกสารที่เกี่ยวข้อง มากกว่า 7 แสนฉบับ โดย สปสช. จะนำเอกสารหลักฐานดังกล่าว ยื่นต่อกองบังคับการปราบปรามและ DSI ต่อไป

ทั้งนี้ ในการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว ได้ใช้เจ้าหน้าที่มากกว่า 300 คน ตรวจสอบเอกสารทั้งวันทั้งคืนและไม่มีวันหยุด โดยล่าสุดตรวจสอบเอกสารกว่า 2 แสนฉบับของคลินิก 18 แห่งเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารของ 63 คลินิก เพิ่มเติมกว่า 5 แสนฉบับ

นอกจากดำเนินการกับ 18 และ 63 คลินิกเสร็จสิ้นแล้ว ทางหน่วยงานยังได้มีมติให้ ดำเนินการเท่าเทียม ขยายผลการตรวจสอบ ไปยังคลินิกทุกแห่ง ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) หลังจากนั้น จะเป็นการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี และขยายไปยังพื้นที่ปริมณฑลต่อไป เพื่อเป็นการปูพรมโดยไม่มีการละเว้น

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์
นพ.การุณย์ คุณติรานนท์

นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ DSI กล่าวว่า การตรวจสอบการทุจริตครั้งนี้ จะดำเนินการในส่วนของคดีอาญา ยังไม่นับความเสียหายทางแพ่ง และความผิดทางวิชาชีพที่กำลังดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเอกสารหลักฐาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นจำนวนมาก แต่ละหน่วยงาน จึงได้มาแบ่งหน้าที่ร่วมกัน

สำหรับ DSI จะเร่งรัดการดำเนินการในทางคดีอาญา และพิจารณาว่ามีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ต้องมีอะไรเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินความผิด ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำผิด เป็นการฉ้อโกงซ้ำๆ หลายครั้ง จึงจะมีเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.การฟอกเงิน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ด้านนางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สบส. กล่าวว่า ในส่วนของคลินิกทั้ง 18 แห่ง ซึ่ง สปสช.ได้เพิกถอนการเป็นหน่วยบริการไปแล้ว สบส.จึงเข้ามาดำเนินการในฐานะหน่วยงานดูแลกำกับ โดยขณะนี้ทั้ง 18 แห่งมีกำหนดระยะเวลา 15 วันที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งจะครบในวันที่ 30 ก.ค.นี้

บัตรทอง

หากแก้ไขไม่เสร็จสิ้น ก็จะต้องมีคำสั่งปิดชั่วคราว และจะดำเนินการ ทั้งในด้านมาตรฐานสถานพยาบาล และมาตรฐานวิชาชีพ โดยในส่วนของตัวผู้ประกอบกิจการ ซึ่งเป็นแพทย์ หากมีความผิด ก็ต้องส่งเรื่องดำเนินการไปยังแพทยสภา หรือในส่วนของ ห้องปฏิบัติการ (Lab) มีความเกี่ยวข้อง ก็จะส่งไปยัง สภาเทคนิคการแพทย์ ที่ดูแลเรื่องมาตรฐาน เป็นต้น

ขณะที่ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม กล่าวว่า หลังจาก กองปราบฯ ได้รับการร้องทุกข์แล้ว ในด้านคดีเห็นว่า มีพยานบุคคลเป็นจำนวนมาก จึงอยู่ระหว่างการตั้ง คณะพนักงานสอบสวน และรวบรวมหลายหน่วยงาน เข้ามาร่วมทำการสอบสวน เพื่อให้คดีรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในชั้นนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร ร่วมกับ สปสช.

ทั้งนี้ ทาง สปสช. จะคัดมาให้ว่า ประชาชน หรือ ผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อแต่ละคลินิกมีกี่ราย โดยพนักงานสอบสวน จะเรียกแต่ละราย มาสอบปากคำ เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ไปใช้บริการจริง เป็นการทำเอกสารเท็จ มาประกอบกับข้อกล่าวหา ว่าเป็นการฉ้อโกงอย่างไร

ในส่วนของพยานหลักฐานด้านอื่น ๆ เบื้องต้นทาง DSI จะรับไปติดตามตรวจสอบ ซึ่งการดำเนินงานของทุกหน่วยงาน ในวันนี้ จะช่วยแบ่งเบาพนักงานสอบสวนได้มาก และทำให้คดีมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo