นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าเห็นชอบปรับเพิ่มโควตาส่งออกข้าวเปลือกอินทรีย์และข้าวเปลือกตามมาตรฐาน GAP เพื่อส่งออกไปยังตลาดยุโรป จาก 2,000 ตัน เป็น 5,000 ตัน เนื่องจากปัจจุบันการปลูกข้าวอินทรีย์และข้าวมาตรฐาน GAP มีสัดส่วนเพียง 10% ของโควตาส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) ดังนั้นจึงต้องการให้เพิ่มสัดส่วนมากขึ้น จำเป็นต้องส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวอินทรีย์และข้าวมาตรสากล GAP ทั้งประเทศให้ได้ 280,000 ตันในปี 2564
นอกจากนี้ ยังให้ชะลอการขายข้าวเปลือก หรือการจำนำยุ้งฉาง เพื่อดึงสหกรณ์การเกษตรที่มียุ้งฉางเข้ามาร่วมโครงการ โดยใช้เงื่อนไขเหมือนเดิม และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรที่มียุ้งฉาง เพราะยังสามารถรองรับ 500,000 ตัน จาก 300 สหกรณ์ ภายใต้กรอบ 2 ล้านตันในโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวจากยุ้งฉาง
ขณะที่นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าที่ประชุมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย ธ.ก.ส. กระทรวงพาณิชย์ สมาคมโรงสีข้าว สมาคมผู้ส่งออกข้าว จัดทำ Big Data เกี่ยวกับข้าวทั้งหมด เพื่อประเมินตลาดข้าว การประเมินสถานการน้ำ เพื่อให้การพยากรณ์การผลิตข้าวแต่ละปีมีความแม่นยำ เพื่อที่รัฐบาลจะได้ส่งสัญญาณการปลูกข้าวในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม ได้ให้สำรวจว่ามีเกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความเข้าใจกับผู้ประสบปัญหาอุทกภัย หรือผู้เสียสละใช้พื้นที่เป็นแก้มลิงรองรับน้ำไม่ให้ไหลไปยังพื้นที่อื่น ใช้แนวทางเดียวกับถ้ำหลวงโมเดล โดยเฉพาะลุ่มน้ำภาคกลาง ที่ต้องรองรับน้ำจำนวนมาก และหามาตรการเพิ่มเพื่อช่วยเหลือเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสบายใจมากขึ้น หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนนี้
