จากจุดเริ่มต้นในอุตสาหกรรมสื่อของ “อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง” ด้วยเปิดตัวนิตยสาร “บ้านและสวน” ในปี 2519 ตลอดเส้นทางกว่า 40 ปี อมรินทร์ มีธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ครบทั้งโรงพิมพ์ สำนักพิมพ์ ร้านจำหน่ายหนังสือ นิตยสารครบทุกเซ็กเม้นต์ ขยายอาณาจักรสื่อครอบคลุมทั้ง “สิ่งพิมพ์ ทีวี งานแฟร์ และสื่อออนไลน์” ในยุค Digital disruption จิ๊กซอว์ใหม่ของ “อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส” จึงเดินหน้ามุ่งสู่ตลาด “ออนไลน์ ช้อปปิ้ง”
เจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อมรินทร์” เริ่มต้นสร้างคอนเทนท์จากสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อมอบประสบการณ์เรื่อง “การอ่าน” เมื่อกว่า 40 ปีก่อน
จากนั้นช่วง 20 ปีถัดมาเพิ่มเติมประสบการณ์ผ่านการจัด “งานแฟร์” รวมทั้งสื่อออนไลน์ด้วยเว็บไซต์ “บ้านและสวน” รวมทั้งทำรายการโทรทัศน์ป้อนให้สถานีทีวีช่องต่างๆในขณะนั้น
ดังนั้นกระแสที่เรียกว่า Digital Disruption ที่ผ่านมา จึงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่อมรินทร์ เพียงแต่ต้องปรับตัวจากการที่ต้องหาทางใช้ประโยชน์ (Utilize) สื่อในยุคดิจิทัล จากหน้ามือเป็นหลังมือ!!
ปัจจุบันหากองค์กรสื่อใดยังอยู่ในช่วง Digital Disruption ที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี น่าจะเป็นปัญหา เพราะที่จริงวันนี้ควรต้องอยู่ในขั้น Digital Utilization ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งแต่ละบริษัทนำมาต่อยอดธุรกิจและสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคแตกต่างกัน
“อมรินทร์ องค์กรสื่อกว่า 40 ปี ชื่อยังเป็น พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราต่อยอดจากสื่อดิจิทัล ปรับตัวสู่ ออมนิ มีเดีย ที่สร้างประสบการณ์ผ่านคอนเทนท์ในทุกช่องทาง”
เปิดตัว “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ”
อาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการฝ่าย นิว มีเดีย บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภายใต้ “อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส” ธุรกิจสื่อและคอนเทนท์ครบวงจรรูปแบบ “ออมนิ มีเดีย” ที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคผ่านช่องทางสื่อทั้ง “สิ่งพิมพ์ ทีวี งานแฟร์ ณ จุดขาย ร้านนายอินทร์”
ไตรมาสมาส 4 ปีนี้ อมรินทร์ จะเพิ่มเติมประสบการณ์สื่อและคอนเทนท์ใหม่ให้ผู้บริโภค ด้วยรูปแบบ “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทใหม่ คือ “มีเดีย คอมเมิร์ซ” ซึ่งจัดตั้งในปีนี้ที่จะมาดูแลและพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าว
คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ก็คือ ออนไลน์ ช้อปปิ้ง ที่ผู้ซื้อยังได้รับประสบการณ์การซื้ออยู่กับแพลตฟอร์มของอมรินทร์
อาสา เล่าว่า “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” มาจากคอนเซ็ปต์ See it, Love it, Buy it ที่ผ่านมา “อมรินทร์” ทำคอนเทนท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการ เมื่อมีคนเห็นและชื่นชอบ หากยุคเดิมก็อาจต้องเดินไปซื้อที่ร้าน หรือในยุคนี้ ก็คลิกเข้าไปดูและซื้อผ่านออนไลน์ แต่นั่นหมายถึงผู้อ่านอยู่กับคอนเทนท์ของอมรินทร์ แต่ต้องไปดูรีวิว รายละเอียดสินค้า หรือไปซื้อที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ เป็นการออกนอก อีโคซิสเต็ม ของอมรินทร์ ไปเลยและอาจไม่กลับมาอีก!!
แต่รูปแบบของ คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ เป็นการดึงให้ผู้อ่านหรือผู้ซื้อ อยู่ใน อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส เพราะเมื่อ See it และ Love it ก็ต้องไปจบที่ Buy it ได้เช่นกัน หรือ ซื้อแล้ว ก็สามารถแชร์ให้เพื่อนเพื่อให้ได้ส่วนลดจากลูกเล่นโปรโมชั่นก็ได้ โดยทั้งหมดยังอยู่ในอีโคซิสเต็มของ “อมรินทร์” เป็นการรักษาฐานผู้อ่านและสร้างเพจวิวให้ทั้งหมดอยู่ในแพลตฟอร์มอมรินทร์
คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ จะเป็นจิ๊กซอว์ ที่ทำให้ประสบการณ์การซื้อสินค้า อยู่กับแพลตฟอร์มของอมรินทร์
รูปแบบ”คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” จะฝังอยู่ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์สื่อในเครืออมรินทร์ เช่น เมื่ออ่านบทความเกี่ยวกับการตกแต่งสวนในเว็บไซต์บ้านและสวน หากสนใจ “ศาลา” ที่นำมาใช้แต่งสวน ผู้อ่านสามารถกดรายละเอียดและสั่งซื้อได้ทันที หรืออ่านคอนเทนท์เกี่ยวกับ “บ้าน” จะมีรายละเอียดต่างๆ ของบ้าน เช่น อุปกรณ์ในบ้าน อุปกรณ์แต่งสวน อิฐบล็อกทางเดิน ต้นไม้ เรียกได้ว่าทุกรูปที่เห็นหากขายได้ ผู้บริโภคก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ผ่านแพลตฟอร์มคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ
เบื้องต้น เมื่อเข้าสู่แบรนด์เว็บไซต์ต่างๆ ในเครืออมรินทร์ คลิกดูรูปสินค้าที่สนใจ จะได้รับข้อมูลเบื้องต้น จากนั้นเมื่อกดอีกครั้งจะได้ข้อมูลรายชื่อผู้ขายสินค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์ม และสามารถสั่งซื้อสินค้าที่เป็นคู่ค้าบนแพลตฟอร์ม คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ของอมรินทร์ ได้ทันที
นอกจากแบรนด์เว็บไซต์เครืออมรินทร์แล้ว แพลตฟอร์มคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ จะมี “เว็บไซต์ สแตนด์อะโลน” ที่จะเป็นเว็บไซต์กลางสำหรับการทำอีคอมเมิร์ซ ดูแลการสั่งซื้อ สต็อกสินค้า และการจัดส่ง
ดึงคู่ค้างานแฟร์ร่วมออนไลน์ช้อปปิ้ง
สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายผ่าน “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” จะแตกต่างจาก มาร์เก็ตเพลส อื่นๆ ไม่ใช่ว่าใครๆ จะนำสินค้ามาจำหน่ายได้ แต่จะสอดคล้องไปกับการนำเสนอคอนเทนท์ในทุกแพลตฟอร์มของอมรินทร์ เช่น สินค้าจากงานบ้านและสวน แฟร์ ที่จัดปีละ 3 ครั้ง มีผู้ประกอบการมาร่วมออกบูทครั้งละ 3,500 บูท ดังนั้นหากดึงผู้ประกอบการ 50% ที่ร่วมออกบูท มาอยู่บนคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ได้ นั่นเท่ากับกว่าจะมีงานบ้านและสวนแฟร์ 365 วัน 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปงานแฟร์
แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการหยิบจับ เปรียบเทียบสินค้า ก็ยังต้องมีงานแฟร์ไว้เช่นเดิม แต่การซื้อขายอาจไม่ได้เกิดที่งานแฟร์ เพราะลูกค้าอาจกลับไปเปรียบเทียบราคาและซื้อจากดีลที่ดีที่สุดที่แพลตฟอร์มเสนอ
ในเดือนตุลาคมนี้ แพลตฟอร์ม “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” จะเริ่มทดลองเปิดให้บริการกับพันธมิตร 1 โปรดักท์ ด้วยการทำ Flash Sale เพื่อสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคว่า คอนเทนท์ของอมรินทร์ นอกจากอ่านแล้ว สามารถซื้อได้เลย!! หลังจากนั้นจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ จะอยู่ในช่วง ไตรมาสแรกปี 2562
ปัจจุบันคู่ค้างานแฟร์ ที่จะอยู่ในกลุ่มบ้านและสวน ,แม่และเด็ก (เบบี้แอนด์คิดส์), กลุ่มแฟชั่น โดยเลือกคู่ค้าที่เหมาะสม เพื่ออยู่ใน “อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส”
ชูจุดเด่นแบรนด์“น่าเชื่อถือ”
เจรมัย บอกว่าความแต่กต่างระหว่าง คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ของอมรินทร์ และมาร์เก็ตเพลส อื่นๆ คือ การมีคอนเทนท์ที่น่าเชื่อถือและรายละเอียดผ่านเนื้อหา เพราะหากไม่ใช่ “บ้านและสวน” เป็นผู้นำเสนอขายสินค้า ผู้ซื้อยังต้องไปเช็คราคา เปรียบเทียบสินค้าจากแหล่งอื่น แต่หากซื้อบนแพลตฟอร์มที่บ้านและสวน จะตัดขั้นตอนการเช็คความมั่นใจ เพราะ “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ” เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเห็นแล้วว่าดี จากข้อมูลที่อ่าน จากนั้นหากต้องการซื้อ และสั่งซื้อได้ทันที ทุกอย่างอยู่บนแพลตฟอร์ม “อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส” ทั้งหมด โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม เพื่อไปเปรียบเทียบข้อมูล หรือ ถามหาความมั่นใจจากแหล่งอื่นอีก เพราะ “บ้านและสวน” เป็นแบรนด์คอนเทนท์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่น
เราใช้ความน่าเชื่อถือของอมรินทร์ ที่สั่งสมมา 40 ปี พร้อมสร้างทุกประสบการณ์ของผู้บริโภคให้อยู่กับแพลตฟอร์ม อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส
บิซิเนส โมเดล ของคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ มีหลายรูปแบบ เช่น การแบ่ง GP ร่วมกับคู่ค้า, การให้พริวิเลจ กับผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูทในงานบ้านและสวน แฟร์ 3 ครั้งต่อปี มีช่องทางขายผ่านออนไลน์ รวมทั้งรูปแบบที่ใช้คอนเทนท์ของอมรินทร์ขับเคลื่อนแบรนด์คู่ค้า ตั้งแต่เริ่มทำโปรดักชั่นสร้างสรรค์คอนเทนท์สินค้า เพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เป็นการวางแผนสร้างคอนเทนท์ผ่านสื่อและการขายออนไลน์ เพื่อสร้างสินค้าให้อยู่ใน “อมรินทร์ ยูนิเวิร์ส” ทุกช่องทาง เป็นรูปแบบการรับจ้างทำคอนเทนท์และแพลตฟอร์มการขาย
การสร้างคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ที่เชื่อมโยงกับงานแฟร์ต่างๆ ของอมรินทร์ ซึ่งจัดปีละ 23 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 5.5 ล้านคน จะช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขาย สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มรูปแบบ Virtual Fair ได้ 24 ชั่วโมง เพื่อให้คนนอกพื้นที่กรุงเทพฯ สถานที่จัดงานแฟร์ สามารถเลือกซื้อสินค้าคัดพิเศษ ที่จัดแพ็คเกจมาให้ โดยไม่ต้องมาเดินเลือกซื้อในงานแฟร์ ที่จะมีมานำเสนอทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เว็บไซต์ หรือ มาร์เก็ตเพลสอื่น ที่ไม่มีงานแฟร์ ไม่สามารถทำได้!!
เซเลบบล็อกจบซีรีส์ ‘สู่ขวัญ’ อมรินทร์ปั้นต่อกลุ่ม ‘บ้านและสวน-แม่และเด็ก’
