Politics

‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณ ‘กต.’ ดูแลคนไทยในต่างแดน ย้ำเราไม่ทิ้งกันไม่ว่าอยูที่ไหน!

เราไม่ทิ้งกัน “นายกรัฐมนตรี” ขอบคุณ “กระทรวงการต่างประเทศ” ที่เป็นด่านหน้าดูแลพี่น้องคนไทยในต่างแดน เผยวันนี้คนไทยได้กลับบ้านแล้ว 6 หมื่นคน

ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2563 ซึ่ง กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หม่อมหลวงพัชรภาภร เทวกุล เลขาธิการ ก.พ ให้การต้อนรับโดยนายกรัฐมนตรีวางพวงมาลัย สักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ พร้อมชมนิทรรศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศ ในสถานการณ์ COVID-19 ณ บริเวณด้านหน้าห้องวิเทศสมโมสร

ประยุทธ์ ดอน2376311

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ว่า ขอบคุณ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เจ้าหน้าที่ทั้งใน และต่างประเทศ ในการเป็นด่านหน้า ในการดูแลพี่น้องคนไทยในต่างแดน วันนี้ได้นำคนไทยกลับจากต่างประเทศประมาณ 6 หมื่นคน โดยผ่านการคัดกรองทางบก ทางเรือ และทางอากาศ

ขณะเดียวกัน ยังมีคนค้างอยู่จำนวนมากพอสมควร ในเรื่องการดูแลให้สิ่งของอุปโภคบริโภค ได้ทำอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนที่ไม่ได้กลับมา เราไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าอยูที่ไหนก็ตาม ในประเทศก็ต้องไม่ทิ้งกัน รัฐบาลมีนโยบายอย่างนั้นอยู่แล้ว

“ขอให้กำลังใจทุกคน ทำงานด้วยความสุข ตั้งใจ ซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร และอดทน สำหรับระยะต่อไป เป็นการเตรียมการเปิดโรงงานรับแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานในการคัดกรอง ความร่วมมือจากภาคเอกชน ที่มีความต้องการแรงงาน เพราะหลายอย่างรัฐบาลรับเองไม่ไหว ดังนั้นต้องช่วยกัน ตนได้ให้แนวทางไปแล้ว เมื่อไหร่ อย่างไร เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ เราต้องเตรียมความพร้อมการรองรับคน โดยจะรับคน แต่ไม่รับโรคโควิด-19 เข้ามา หลายคนต้องช่วยกัน ทุกคนต้องติดตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อจะได้มีส่วนร่วม ในมาตรการของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อลดความขัดแย้ง ใครจะทำผิดทำถูกอย่างไรประชาชนรู้ บางครั้ง รัฐบาลกำชับไปก็ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วม จะได้ประโยชน์ หรือ เสียประโยชน์มันต้องร่วมกัน ไม่เช่นนั้น จะมีความเสี่ยงที่จะเสียมากกว่าได้ อย่าลืมว่า วันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจพร้อมๆ กับสุขภาพ ซึ่งสุขภาพเราทำได้ดีมากในขณะนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า วันนี้ต้องทำงานแบบนิว นอร์มอล เร่งรัดสร้างการรับรู้ ช่องทางการสื่อสาร โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระบบออนไลน์ ขอให้ทุกคนติดตาม เพราะบางครั้ง เรื่องมีสาระคนไม่อยากอ่าน ตนไม่ได้ว่าใคร แต่บางครั้ง มันเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน ขอให้หน่วยงานปรับวิธีการนำเสนอ เพื่อให้เข้าใจง่าย ขอให้ติดตามว่า ประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้นในปีนี้และอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะถือเป็นความหวังของประชาชน

เราไม่ทิ้งกัน

สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่รัฐบาลฝ่ายเดียวที่จะเป็นผู้กำหนด เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง หลายอย่างรัฐบาลพยายามทำ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน แต่ภาครัฐจะต้องทำให้ดีที่สุด ให้ประชาชนเห็น ถ้าจ้องแต่โครงการใหญ่ๆอย่างเดียว โดยไม่ดูพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ ก็จะทำให้โครงการใหญ่เกิดไม่ได้ ส่งผลกระทบให้โครงการพื้นฐานเล็กๆ ทำไมได้ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้มองว่า 5 ปีที่ผ่านมาประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และ 1 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ทั้งหมดได้รับการสานต่อมาอย่างไร และเราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร โดยขจัดอุปสรรคแต่ละปีให้ได้ วันนี้เน้นย้ำการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่งมีหลายงบประมาณ รวมถึงการโอนงบปี 63 มาส่วนหนึ่ง และงบฟื้นฟูทำอย่างไร จะไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รัฐบาลจำเป็นต้องพูดคุยหารือรายละเอียด ซึ่งมีกรอบอยู่แล้ว

ข้อสำคัญ การจะทำอะไรก็ตาม จะต้องได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องบริหารจัดการพื้นที่ข้างล่างร่วมกับท้องถิ่นและประชาชน เพื่อให้สิ่งต่างๆ ตรงความต้องการของประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจเหล่านี้ให้ได้ แล ะต้องมองในส่วนของผู้ประกอบการ นักธุรกิจด้วย ไม่ใช่ว่าดูแลคนรวยคนจน มันไม่ใช่ เป็นคนละมิติกัน สิ่งสำคัญต้องทำให้เกิดการจ้างงานมากยิ่งขึ้น และไม่ทำให้เขาล้มละลาย แต่จะมากน้อย ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่

“ขอย้ำว่างบประมาณที่ได้ มาจากการจัดเก็บรายได้ของประเทศ ช่วงนี้การจัดงบประมาณเป็นงบฟื้นฟูที่มาจากเงินกู้จะต้องผ่อนชำระเขา ถ้าเราไม่ร่วมฟื้นฟูกันในตอนนี้ บ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพแล้วจะหาเงินจากไหน ในวันข้างหน้าทั้งการขับเคลื่อนประจำปีและแผนงานระยะยาว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo