Politics

‘สมศักดิ์’ ยันผลตรวจดีเอ็นเอ ‘คนไทย’ ไม่ได้ฆ่า ‘โทโมโกะ’

“สมศักดิ์” แถลงคลี่คลายคดีฆาตกรรม “โทโมโกะ” คดีดังเมื่อปี 2550 ยันผลตรวจดีเอ็นเอชัด “คนไทย” ไม่ได้ฆ่า “โทโมโกะ”

ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม แถลงความคืบหน้า​คดีฆาตกรรม น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย โดยแถลงข่าวร่วมกับนายโทโมยูกิ ฟูจิยามะ หัวหน้านายตำรวจญี่ปุ่น เลขานุการเอก และนายฮิโรยูกิ มูระมัตสึ เลขานุการโท และกงสุล

รวมทั้ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ พ.ต.ท.​กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​

นายสมศักดิ์ ระบุว่า การสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ได้ดำเนินการออกเป็น 4 ช่วง หลังเกิดเหตุผ่านมา 14 ปี มีการตรวจดีเอ็นเอบุคคล ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับคนร้าย ซึ่งตรวจพบจากขอบกางเกงด้านหลังของ น.ส.โทโมโกะ ประกอบกับขวดน้ำช้างศึก ซึ่งเป็นขวดน้ำที่ผลิตขึ้นในพื้นที่ของตชด. ก็ได้มีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจตชด. และชาวบ้านละแวกนั้นรวม 200 ราย

สมศักดิ์

จากนั้นมีการสืบสวนต่อในช่วงที่ 2 คือในปี 2556 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขอให้ ดีเอสไอ รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางไปเที่ยวที่ จ.สุโขทัย จึงได้มีการตรวจดีเอ็นเอผู้เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอีก 146 ราย รวมเป็น 336 ราย ก็ยังไม่พบเบาะแส แต่ได้มีการงดการสอบสวนชั่วคราวเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 แต่การสืบสวนยังดำเนินการต่อ

จนมาถึงช่วงที่ 3 เมื่อปี 2560 มีผู้แจ้งเบาะแสผ่านเว็บไซต์ดีเอสไอ ทางดีเอสไอจึงดำเนินการสอบสวน โดยได้ตรวจดีเอ็นเอพ่อค้าในพื้นที่เพิ่มอีก 2 ราย และต่อมาในช่วงที่ 4 คือในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ตนมารับตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” และเป็นชาวจ.สุโขทัย ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

และได้ข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัย น่าจะเป็นคนงานของฟาร์มหมูในละแวกนั้น โดยได้เก็บดีเอ็นเอของญาติคนงานฟาร์มหมู เนื่องจากคนงานฟาร์มหมูคนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการเก็บดีเอ็นเอพี่ชาย และพี่สาว รวมทั้งลูก ซึ่งครอบครัวดังกล่าวอยู่ที่ไต้หวัน

โดยได้เก็บดีเอ็นเอเพิ่มขึ้นอีก 14 ราย รวมตลอด 4 ช่วงของการสืบสวนคดีดังกล่าว มีการเก็บดีเอ็นเอได้ 379 ราย เมื่อได้ตรวจสอบ กลับปรากฏว่า ไม่ตรงกับดีเอ็นเอ ที่ขอบกางเกงของน.ส.โทโมโกะ จึงได้เปลี่ยนการสืบสวนสอบสวนใหม่ โดยนำดีเอ็นเอไปปรึกษากับนักพันธุ์ศาสตร์

สมศักดิ์
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 ได้สกัดโครโมโซมจากดีเอ็นเอที่ขอบกางเกง พบเป็นโครโมโซม Y จำนวน 16 จุด แล้วนำไปพิสูจน์ทางวิชาการ วิเคราะห์แล้วพบว่า เป็นชาติพันธุ์กลุ่มประชากรในเอเชียตะวันออก ซึ่งมี 7 กลุ่มประเทศ แต่ที่ยืนยันได้คือใน 7 กลุ่มไม่มีประเทศไทย

กรวัชร์ ปานประภากร
พ.ต.ท.​กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เป็นความรับผิดชอบของทางการไทย เมื่อไม่ปรากฏว่า ผลตรวจดีเอ็นเอเป็นของคนไทย ก็จะประสานไปยังตำรวจสากล และตำรวจญี่ปุ่น เพื่อมอบให้ดำเนินการต่อ เพราะว่า กฎหมายและต่างชาติแตกต่างกัน

ขณะที่นายโทโมยูกิ ได้กล่าวขอบคุณที่ทางการไทย ที่ให้ความสำคัญกับการสืบสวนคดี แต่น่าเสียดายที่ผลการตรวจดีเอ็นเอไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่ก็เป็นผลดีของการสืบสวนต่อ ซึ่งทางการญี่ปุ่นยินดี ที่จะประสานเรื่องการไขคดีกับดีเอสไอต่อไป

เมื่อถามว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ มีผู้ต้องสงสัยใกล้ชิดกับ น.ส.โทโมโกะ เดินทางออกนอกประเทศกี่คน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า มีผู้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์เป็นชาวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศ 1 ราย ซึ่งชายคนดังกล่าว เป็นเพื่อนของชาวญี่ปุ่น แต่ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจดีเอ็นเอในครั้งนั้น โดยบุคคลดังกล่าว อยู่ที่ญี่ปุ่น และยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวมาตรวจดีเอ็นเอได้ ส่วนที่มีการระบุว่า พบชาวเกาหลีใต้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ดีเอสไอจะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ซึ่งในเรื่องดังกล่าวหัวหน้าตำรวจญี่ปุ่น กล่าวว่า ผลการวิเคราะห์ฐานข้อมูลดีเอ็นเอของไทย ทำให้ทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นเชื้อชาติพันธุ์เอเชียตะวันออก และมีความเป็นไปได้ว่า ไม่ใช่คนไทย แต่ก็ไม่ได้ตัดสินว่า คนร้ายจะเป็นคนชาติไหน ซึ่งทางการญี่ปุ่นยินดีที่จะสืบสวนต่อ แต่คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน การจะให้ระบุว่า จะบังคับให้ชายญี่ปุ่นคนดังกล่าวมาตรวจดีเอ็นเอได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

นาย สมศักดิ์ ได้กล่าวย้ำว่า ในการสืบสวนคดียืนยันว่า ดีเอ็นเอ ที่ตรวจไม่มีค​นไทยเกี่ยวข้องแน่นอน มั่นใจว่า จะปิดคดี ซึ่ง จ.สุโขทัย เป็นบ้านเกิดของตน การดำเนินการในเรื่องการสืบสวนคดีนี้ และผลที่ออกมาถือว่า เป็นการศักดิ์ศรีความเป็​นคนสุโขทัย ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ทำความชัดเจนให้ปรากฏ ซึ่งการสอบสวนในเมืองไทยสมบูรณ์ คนไทยรอดตัวแล้ว

นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม กล่าวว่า น้ำยาใหม่ที่ใช้ตรวจสอบสกัดหารูปแบบสารพันธุกรรม คือ น้ำยา Yfiler Plus นั้น มีระดับผลความแม่นยำ 99.99% ซึ่งผลจากการสกัดดีเอ็นเอขอบกางเกงด้านหลังข้างขวาของ น.ส.โทโมโกะ พบว่าเข้ากับลักษณะพันธุกรรมที่มีเอกลักษณ์ดีเอ็นเอของคนชาติพันธุ์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน อย่างไรก็ดี มีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มากกว่า

ขอบคุณภาพจากกระทรวงยุติธรรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo