Politics

วุ่น! สถานศึกษา ‘แพร่-มหาสารคาม’ ขวางจัดม็อบประท้วงรัฐบาลเย็นนี้

วุ่น! สถานศึกษา “แพร่-มหาสารคาม” ขวางจัด ประท้วง ต้านรัฐบาลเย็นนี้ (22 ก.ค. 63) “โรงเรียนแพร่” ขู่ไม่เซ็นใบเรียนจบ ด้าน “มมส.” ประกาศไม่ให้ใช้สถานที่ 

ในเวลา 17.00 น. วันนี้ (22 ก.ค. 63) กลุ่มเยาวชนในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดแพร่ที่มีอุดมการณ์เดียวกับ “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ได้นัดรวมตัวกันชุมนุม ประท้วง รัฐบาล

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาก็ได้มีเรื่องราววุ่นวายขึ้น เมื่อสถาบันการศึกษาทั้ง 2 จังหวัดคือ แพร่ และ มหาสารคาม แสดงความประสงค์ไม่ให้นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมการ ประท้วง หรือไม่ให้จัดกิจกรรมขึ้นในบริเวณสถานศึกษา

เฟซบุ๊ก เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยแพร่ ได้แชร์ประกาศฝ่ายกิจการนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่มีข้อความระบุว่า ทางโรงเรียนได้รับการประสานงานจากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดแพร่เกี่ยวกับการชุมนุมในวันนี้ โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในส่วนของการชุมนุม ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

ดังนั้น จึงให้หัวหน้าระดับและครูที่ปรึกษาแจ้งกำชับนักเรียน เพื่อป้องกันเหตุและให้ตระหนักคิดถึงบทบาทในด้านการเรียน ความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตเป็นลำดับต่อไป

ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือมีเหตุอันใดการปฏิบัติไม่มีความเกี่ยวข้องกับโรงเรียน ให้รับผิดชอบตัวเองในสิ่งที่จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข้อความต่างๆ เช่น ข้อความเตือนจากครูไม่ให้นักเรียนเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคำถึงถึงผลที่จะตามมาจากโรงเรียนและครูที่ปรึกษา โดยหากเห็นว่าเข้าร่วมการชุมนุม “จะไม่เซ็นใบโควตา ใบจบให้” ถ้าหากมีเรื่องตามมาหรือจับได้ว่าเข้าร่วมการชุมนุม

รวมถึงข้อความห้ามนักเรียนนำโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองมาติดสถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นความผิด เพราะไม่ได้รับอนุญาตและห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับม็อบ

 

109370953 175627610634104 4613153807280605455 o e1595411857914

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยแพร่ จึงออกแถลงการณ์ขอให้สถานศึกษาและเจ้าหน้าที่รัฐหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการจำกัด ข่มขู่ และคุกคาม สิทธิเสรีภาพของประชาชนทุก

“แถลงการณ์เคียงข้างลูกหลานคนแพร่ผู้รักประชาธิปไตย ฉบับที่ 1 (22.07.63)

เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยแพร่ ขอยืนหยัดเคียงข้างนักเรียน นักศึกษา ลูกหลานคนแพร่ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคมทุกคน

ผู้กล้าหาญ ผู้ไม่สยบยอมต่ออำนาจนิยมใดใดในโรงเรียน และไม่ว่าที่ใดก็ตาม

การเข้าร่วมกิจกรรม “คนแพร่เล่าขวัญเผด็จการ” ในวันนี้ ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมที่ทุกคนกระทำได้ การออกคำสั่งห้ามให้นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วม ชุมนุม นั้นอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ในนามของเครือข่ายคนรักประชาธิปไตยจังหวัดแพร่ ขอเรียกร้องให้สถานศึกษาในจังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่ของรัฐหยุดพฤติกรรม จำกัด ข่มขู่และคุกคาม สิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกรูปแบบที่จะขัดขวางต่อการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้

และขอให้คนแพร่ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจและยืนเคียงข้างลูกหลานของเราผู้รักประชาธิปไตย ผู้ซึ่งจะเป็นอนาคตสำคัญของชาติต่อไป

“เราจะยืนหยัดเคียงข้างความถูกต้อง เคียงข้างประชาธิปไตย เคียงข้างเธออนาคตของประเทศ”

เครือข่ายผู้รักประชาธิปไตยแพร่

22/07/63

#เยาวชนปลดแอก”

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

ด้านมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เผยแพร่ประกาศลงนามเมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 63) ห้ามไม่ให้ใช้สถานที่บริเวณลานแปดเหลี่ยมของมหาวิทยาลัยฯ ในการจัดกิจกรรมทางการเมืองในวันนี้

ระบุว่า “มีความห่วงใยในการแพร่ระบาดอันอาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างยิ่งและเนื่องด้วยกาาจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้นมหาวิทยาลัยมหาสารคามยังมิได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมแต่อย่างใด อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันในด้านความปลอดภัยในสวัสดิภาพของนิสิต…ตลอดจนทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยมหาสารคามตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 และให้เป็นไปตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”

ประกาศดังกล่าวทำให้ผู้จัดกิจกรรมไม่พอใจท่าทีมหาวิทยาลัย โดยนำป้าย “พื้นที่นี้เราจองก่อน” ไปติดบริเวณที่นัดหมาย ชุมนุม พร้อมขึ้นรถปราศรัยตอบโต้ผู้บริหาร

โดยต่อมาผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้เรียกผู้แทนจัดกิจกรรมเข้าพบ แต่ทางทีมงานปฏิเสธและขอให้ผู้บริหารลงมาอธิบายเหตุด้วยตัวเองขณะเดียวกันได้ยืนยันจะเดินหน้าจัดกิจกรรมไล่รัฐบาลในเวลา 17.00 น. พร้อมเพิ่มกิจกรรมไล่อธิการบดีขึ้นมาด้วย

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

 

ประท้วง แพร่ มหาสารคาม

วันนี้ (22 ก.ค. 63) รัฐบาลก็ได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน

โดย พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า รัฐบาลยังต้องการที่จะมีกฎหมายลักษณะควบคุมต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากสถานการณ์โลกในปัจจุบันพบว่า มีการติดเชื้อทั่วโลกเฉลี่ยวันละเกือบ 200,000 ราย จึงคงมีความจำเป็นต้องมีการใช้สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่า

แต่เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสบายใจยิ่งขึ้น รัฐบาลจะไม่ใช้มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาห้ามการชุมนุม เพื่อแสดงให้เห็นว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต่อในเดือนสิงหาคมนี้ มีเจตนาเพื่อใช้ในการควบคุมโรคโดยบริสุทธิ์ใจเพียงอย่างเดียว การห้ามการ ชุมนุม จะไม่ปรากฏใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต่ออายุอีก 1 เดือน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo