“โฆษกคลัง” คาดจ่ายเงินเยียวยา 1.5 หมื่นบาท “ประกันสังคมมาตรา 33” ได้ใน 3-4 สัปดาห์ หลังจาก ครม. อนุมัติ
ประชาชนหลายกลุ่มได้รับเงินเยียวยาโควิด-19 จากรัฐบาลไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เข้าร่วมโครงการเราไม่ทิ้งกัน, เกษตรกร, ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ล็อตเก็บตก และกลุ่มเปราะบาง
อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆ โดยหนึ่งในนั้นคือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ของกองทุนประกันสังคม ซึ่งเพิ่งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ และต้องตกงานประมาณเดือนเมษายน 2563
เนื่องจากผู้ประกันตนกลุ่มนี้จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 6 เดือนตามเงื่อนไขของกองทุนประกันสังคม จึงไม่ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานหรือตกงาน และผู้ประกันตนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้รับเงินเยียวยา 1.5 หมื่นบาทจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เพราะจังหวะนั้นโครงการเราไม่ทิ้งกัน ได้ปิดการลงทะเบียนไปแล้ว
ประกันสังคมมาตรา 33 ได้เยียวยา 1.5 หมื่นบาท
เมื่อวันนี้ (19 ก.ค. 63) กระทรวงแรงงานจึงเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่ได้รับการเยียวยา หรือ กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 59,776 คน ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมไม่ถึง 6 เดือนและเพิ่งว่างงาน
โดย ครม. ได้เห็นชอบโครงการดังกล่าวตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ พร้อมมอบให้ สำนักงานประกันสังคม จ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จำนวน 5,000 บาท 3 งวด คือ งวดเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2563 รวม 15,000 บาท ซึ่งจะจ่ายเงินทั้งหมดเพียงครั้งเดียว
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการนี้จะอยู่ที่ 896.64 ล้านบาท นำมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
“คลัง” คาดจ่ายเงินได้กลางเดือน ส.ค.
ก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เมื่อโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ก็คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่มีสิทธ์เกือบ 6 หมื่นคนได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ หรือคำนวณคร่าวๆ ก็ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2563
โดยตามขั้นตอนคือ เมื่อ ครม. เห็นชอบแล้ว กระทรวงแรงงานก็ต้องเสนอเรื่องให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดำเนินการกู้เงิน จากนั้นเสนอเรื่องให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติกรองวงเงิน และให้กรมบัญชีกลางดูแลเรื่องการโอนเงินให้ผู้ประกันตนต่อไป
ได้เงินสมทบว่างงานไม่ถึง 5,000 บาท ลุ้นได้เติมเงิน
นอกจากโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จ่ายสมทบไม่ถึง 6 เดือนแล้ว กระทรวงแรงงานยังมีนโยบายช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานไม่ถึง 5,000 บาทด้วย
ผู้ประกันตนกลุ่มนี้ คือ ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 8,138 บาท ส่งผลให้ได้รับเงินกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้างรายวัน จากกองทุนประกันสังคมไม่ถึง 5,000 บาทต่อเดือน กระทรวงแรงงานจึงเสนอให้รัฐบาลเติมเงินชดเชยให้ครบเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เท่ากับโครงการเราไม่ทิ้งกันนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้ฯ ยังไม่ได้อนุมัติวงเงินส่วนนี้ และขอให้กระทรวงแรงงานกลับไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนนำกลับมาเสนออีกครั้ง
เนื่องจากกระทรวงแรงงานเสนอให้จ่ายเยียวยาแบบเหมาไปเลย คนละ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ โดยกระทรวงแรงงานต้องแจกแจงว่า ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม แต่ละรายได้รับชดเชยไปแล้วเท่าไหร่และต้องเติมเงินอีกเท่าไหร่ จึงจะครบ 5,000 บาทต่อเดือน เช่น บางรายได้รับเงินชดเชย 3,800 บาทต่อเดือน ภาครัฐก็จ่ายเพิ่มอีก 1,200 บาท เพื่อให้ครบ 5,000 บาท
ผู้ประกันตนมาตรา 33 โวย!
ผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ ลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการ หรือ พนักงานเอกชน โดยผู้ประกันตนกลุ่มนี้มีทั้งหมด 11 ล้านคน จากผู้ประกันตนทุกประเภทจำนวน 16 ล้านคน
ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดและสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้ประกันตนมาตรา 33 บางส่วนแสดงความไม่พอใจในระบบประกันสังคม เพราะผู้ที่ยังมีงานทำได้รับความช่วยเหลือน้อยมาก ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่นกัน ส่วนผู้ที่ว่างงานก็แสดงความไม่พอใจ เพราะการติดต่อสำนักงานประกันสังคมและการโอนเงินทดแทนกรณีว่างงานเป็นไปด้วยความล่าช้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ประกันสังคม’ เปิดรายละเอียดผู้ประกันตน 3 ประเภท รวม 16 ล้านราย
- ลูกจ้างเศร้า!! ประกันสังคมโวย นายจ้างกว่า 5.4 แสนราย นิ่งเฉย ไม่ยื่นรับรองหยุดงานเหตุสุดวิสัย!
- ผู้ประกันตนเฮ! ขยายเวลาลงทะเบียนรับเงินเยียวยาว่างงานได้ใน 2 ปี