ราคาทองคำในประเทศ พุ่งไม่หยุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ วายแอลจี ชี้ ทิศทางระยะกลาง -ยาว ยังสดใส ระยะสั้นอาจเจอแรงเทขายทำกำไร
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยวันนี้ (22 ก.ค.)ว่า ราคาทองคำแท่ง 96.5 % เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 27,250 บาท ถือว่าเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่า ราคาทองคำในตลาดโลก จะยังไม่สามารถทำลายสถิติเดิม ที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทำไว้เมื่อเดือน กันยายน 2554 ได้
แต่จากการอ่อนค่าของเงินบาท ในช่วงนี้จึงทำให้ ราคาทองคำในประเทศ สูงกว่าปี 2554 ไปแล้ว ซึ่งช่วงนั้นค่าเงินบาทอยู่ในระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าเคลื่อนไหว 31.60-31.85 บาทต่อดอลลาร์
นางพวรรณ์ ยังกล่าวอีกว่า ทิศทางทองคำในระยะกลางระยะยาวยังสดใส แม้ว่าระยะสั้น จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ก็ยังมีลุ้นที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกได้ โดยยังคงเป้าหมายของปีนี้ที่ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากระดับปัจจุบันนัก
สำหรับนักลุงทุนแนะนำว่า หากราคาปรับลดลงใกล้แนวรับให้ซื้อสะสม เพราะทิศทางทองคำระยะกลาง ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐ และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางและรัฐบาลของแต่ละประเทศ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลังต่อไป จึงเป็นผลเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ
ส่วนปัจจัยลบ เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาเป็นระยะๆ จึงแนะนำว่าหากราคาแกว่งตัวขึ้น ให้ทยอยขายบางส่วน เพื่อลดความเสี่ยง และต้องกำหนดจุดขาดทุนประกอบการลงทุนอย่างชัดเจน
สำหรับราคาทองคำ ตามประกาศของ สมาคมค้าทองคำ ในช่วงวันนี้ ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 27,550.00บาท ขายออกที่ราคาบาทละ 27,650.00 บาท
ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ราคาบาทละ 27,060.60 บาท และขายออกที่ราคา 28,150.00 ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,858.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำในประเทศ พุ่ง ทำทองปลอมระบาด
ก่อนหน้านี้ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เกิดปัญหาทองปลอมระบาด เพิ่มมากขึ้น หลังจากปัจจุบัน ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสูงอย่างมาก โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าทองคำย่านเยาวราช เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนในการเลือกซื้อทองคำ
การที่ราคาทองคำพุ่งสูงดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้มิจฉาชีพ รวมทั้งร้านค้าทองคำออนไลน์บางแห่ง หลอกขายทองคำปลอมในรูปแบบต่างๆ เช่น ทองเกรด A, ทองไมครอน, ทองโคลนนิ่ง, ทองยัดไส้ ส่งผลกระทบต่อร้านค้าทองที่รับซื้อทองคำ รวมถึงโรงรับจำนำ
สำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนในทองคำ หรือเลือกซื้อทองคำ แนะนำให้เลือกซื้อ อัญมณี และเครื่องประดับ ที่ผ่านการตรวจสอบ และได้ใบรับรองคุณภาพ จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้บริโภคว่า ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกซื้อสินค้า ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ ในโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ หรือ Buy With Confidence (BWC) ซึ่งเป็นใบรับรองของ สถาบันวิจัย และพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ที่รับประกันได้ว่า หากซื้อสินค้าจากร้าน ที่มีตราสัญลักษณ์นี้แล้ว จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นของแท้
4 วิธี สังเกตทองคำแท้
- สังเกตที่สีของทองต้องไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงเนื้อทองคำต้องไม่มีสิ่งปลอมปนทำให้ตัวทองคำบิดเบี้ยว
- เลือกซื้อทองคำกับผู้ค้าที่มีความน่าเชื่อถือไว้ใจได้ และสังเกตตราประทับสัญลักษณ์ของร้านทองต้องชัดเจน
- ตรวจสอบน้ำหนักทองคำ ให้ตรงกับจำนวนที่ซื้อ รวมถึงต้องขอใบเสร็จรับรองน้ำหนักทองคำจากผู้ขายทุกครั้ง
- ไม่ซื้อทองคำ ที่ราคาต่ำกว่าราคาที่สมาคมค้าทองคำประกาศ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นทองปลอม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราคาทองคำ พุ่งไม่หยุด! เปิด 4 เทคนิค ส่อง ‘ทองแท้’ ป้องกันถูกหลอก
- ลุ้นทองคำแตะ 28,000 บาท สัปดาห์หน้า แนะทำกำไรระยะสั้น
- ‘ทองปลอม’ ระบาด หลังราคาพุ่งสูงสุดแตะ 27,200 บาท แนะซื้อร้านที่ได้มาตรฐาน
