ผู้นำอียู บรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณ และมาตรการให้ความช่วยเหลือมูลค่า 1.8 ล้านล้านยูโร ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติสมาชิก ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
หลังจากการเจรจากันอย่างยาวนานกว่า 4 วัน ในที่สุดบรรดาผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ก็ได้บรรลุข้อตกลงในช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ในมาตรการอัดฉีดมูลค่า 1.8 ล้านล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณกันไว้
มาตรการดังกล่าว รวมถึง เงินทุนจำนวน 750,000 ล้านยูโร ที่กันไว้เป็นเงินกู้ และเงินช่วยเหลือ สำหรับ 27 ชาติสมาชิก เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดขอไวรัสโควิด-19
นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานการประชุมผู้นำอียูครั้งนี้ ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าว มีมูลค่ามากสุดเท่าที่อียูเคยทำข้อตกลงกันมา และถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของยุโรป
“เราทำได้ ยุโรปแข็งแกร่ง ยุโรปเป็นเอกภาพ นี่เป็นข้อตกลงที่ดี เป็นข้อตกลงที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นข้อตกลงที่เหมาะสมสำหรับยุโรปในขณะนี้”
นายมิเชล ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงดังกล่าว จะถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาอันสำคัญในการเดินทางของยุโรป
ข้อตกลงข้างต้น ยังมีเป้าหมายหลีกอยู่ที่ โครงการมูลค่า 390,000 ให้ความช่วยเหลือชาติสมาชิก ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุด ซึ่งคาดว่า อิตาลี และสเปน จะเป็น 2 ประเทศหลัก ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเงินทุนก้อนนี้
ทั้งยังมีอีกจำนวน 360,000 ล้านยูโร เป็นเงินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับชาติสมาชิก
การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ที่เริ่มขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ดำเนินการเจรจานานกว่า 90 ชั่วโมง ถือเป็นการประชุมผู้นำอียูครั้งยาวนานที่สุด นับตั้งแต่การประชุมเมื่อปี 2543 ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ที่ใช้เวลาไปถึง 5 วัน
ขั้นตอนต่อไปของข้อตกลงนี้ คือ การเจรจาทางด้านเทคนิค ของชาติสมาชิกอียู และเสนอเรื่องให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภายุโรป
อ่านข้อความเพิ่มเติม
- อียูไฟเขียว 15 ประเทศรวมไทย เดินทางเข้าได้ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม
- ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉิน สู้ ‘โควิด-19’ อัดฉีดเงินช่วยศก.เกือบล้านล้านดอลล์
- ‘ฝรั่งเศส’ ปิดประเทศ 15 วัน เข้มเดินทางรับ ‘โควิด-19’ ทุ่ม ‘3.4 แสนล้านยูโร’ ช่วยเศรษฐกิจ