“โจชัว หว่อง” แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ทวิตหนุนการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก”
เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 63) โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกง ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @joshuawongcf สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก ในประเทศไทย ที่ได้นัดชุมนุมใหญ่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยข้อความทั้งหมดเป็นดังนี้
“สนับสนุนเพื่อนพ้องชาวไทยในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพวกเขา
1.ชาวฮ่องกงจะไม่มีวันลืมเพื่อนชาวไทยที่ยืนเคียงข้างพวกเรา ในการต่อสู้กับชาตินิยมจีนระหว่างที่มีแฮชแท็ก #nnevvy และส่งเสียงเพื่อพวกเรา ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปักกิ่งปราบปรามฮ่องกง #MilkTeaAlliance
2.ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะสนับสุนพวกเขาบ้าง เพราะพวกเราต่างต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เสรีภาพ และอนาคตที่สดใส โดยไม่มีความหวาดกลัว เสียงของประชาชนควรได้รับความเคารพและรับฟัง ไม่ใช่การปราบปรามและเงียบงัน
3.นี่คือการแบ่งปันโชคชะตาสำหรับเยาวชนทั่วโลกท่ามกลางประชาธิปไตยที่ถดถอย – เราต้องการประชาธิปไตยกลับมา เราต้องการอนาคตของพวกเรากลับมา
#respectdemocracyThai # เยาวชนปลดแอก #ให้มันจบที่รุ่นเรา”
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 กลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) และ กลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาประเทศไทย (สนท.) ได้นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ลาออก
ในช่วงหัวค่ำวันดังกล่าว แกนนำกลุ่มเยาวชนได้ประกาศว่า จะปักหลักนอนค้างคืนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสถานที่จัดการนัดชุมนุม เพราะเกรงว่าประชาธิปไตยจะหายไปจากประเทศ และยังได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือส่องไปยังพานรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าเป็นการส่องไฟไล่ความมืด
ต่อมาในเวลาประมาณ 00:00 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการ เยาวชนปลดแอก และ นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธาน สนท. ร่วมกันแถลงการณ์ประกาศยุติการชุมนุม เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธาณูปโภคไม่มีความพร้อมที่จะรองรับมวลชนทั้งหมดได้ จึงตัดสินใจยุติการชุมนุมเมื่อเวลาเที่ยงคืน รวมถึงยกเลิกกิจกรรมร้องเพลงชาติไทยในช่วงเช้าเวลา 08.00 น.
นายทัตเทพ ยืนยันว่า การยุติการชุมนุม แทนที่จะค้างคืนตามกำหนดการเดิมนั้น ไม่ใช่การยอมแพ้ต่อรัฐบาล และไม่ได้ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ให้ยุติการชุมนุม แต่ต้องการให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ ในการไตร่ตรอง ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม 3 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
หลังประกาศยุติการชุมนุม กลุ่มแกนนำกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ซึ่งมาสังเกตการณ์ จึงอาสาพากลุ่มแกนนำกลับบ้าน ทำให้เหตุการณ์จบลง โดยยังไม่มีการจับกุม หรือแจ้งข้อหาแกนนำ
สำหรับการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยครั้งนี้ เยาวชนปลดแอก ได้ประกาศยื่นข้อเสนอ 3 ด้านต่อรัฐบาล ได้แก่
1.“ต้องประกาศยุบสภา” โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลสืบทอดอำนาจภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ล้มเหลวในการบริหารศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและออกมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้มีคนตกงานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลก็มิได้เยียวยาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง มิหนำซ้ำยังปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจโดยที่ไม่แยแสแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ปล่อยปละละเลยให้แขกวีไอพีที่มีเชื้อไวรัสเข้ามาในประเทศโดยที่ไม่ได้กักตัวซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อโอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบ 2
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลชุดนี้บริหารบ้านเมืองต่อไปได้ จึงขอยื่นคำขาดว่า นายกรัฐมนตรีต้องประกาศ “ยุบสภา” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนและเปิดทางให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาแก้ไขปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ
2.“หยุดคุกคามประชาชน” ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ประชาชนต่างก็หวังกันว่าประเทศไทยจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะมีเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยที่ไม่ถูกคุกคามและยัดข้อกล่าวหาหรือคดีความ
แต่ความเป็นจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ การคุกคามทั้งทางกายภาพและทางจิตวิทยายังคงดำเนินต่อไป แทบไม่ต่างจากเมื่อสมัยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังมีอำนาจอยู่ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ของเราถูกยัดคดีไปทีละคน ทีละคน มีการอ้างความมั่นคงเพื่อปิดปากประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรม
ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน ทั้งทางกายภาพ ทางจิตวิทยาตลอดจนการยัดข้อหาเพื่อดำเนินคดีรวมไปถึงให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย
3.“ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” รัฐธรรมนูญฉบับนี้เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ โดยแรกเริ่มเดิมทีก็มีที่มาที่ไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว เพราะคณะผู้ร่างไม่ได้มีความยึดโยงกับประชาชน ผู้ที่รณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติก็ถูกคุกคามและยัดข้อหากันไปหลายคน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญก็เป็นไปเพื่อรักษาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น
กลุ่มเยาวชนปลดแอกยังประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า หากภายใน 2 สัปดาห์นับตั้งแต่เราอ่านประกาศวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากทางรัฐบาลเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการนี้ จะทำการยกระดับการชุมนุมต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มารีญา ประกาศจุดยืน ส่งกำลังใจให้ #เยาวชนปลดแอก
- หนุ่มระยองชูป้าย ขึ้นเวทีเยาวชนปลดแอก ลั่นไม่กลัว ‘ประยุทธ์’ เกิดมาตายครั้งเดียว