เราเที่ยวด้วยกัน ชวนผู้ประกอบธุรกิจที่พัก ร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว ขออย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา เตือนอาจได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต
ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วน 40% ของค่าที่พัก สูงสุด 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สนับสนุนค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว 600 บาทต่อห้องต่อคืน และสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสายการบินในสัดส่วน 40% ของค่าบัตรโดยสาร สูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง
ทั้งนี้ ในภาพรวมโครงการฯ มีผลตอบรับตามเป้าหมาย ผู้ประกอบธุรกิจที่พักสนใจเข้าร่วมแล้ว 6 พันราย โดยหลังจาก ที่ได้เปิดให้ประชาชนจองที่พักภายใต้โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนสามารถวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ในขณะที่ผู้ประกอบการจะเริ่มมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจในช่วงที่ขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศที่มีสัญญาณบวกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19
ดังนั้น เพื่อรักษาแรงส่งต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจไทย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯ ส่วนน้อยบางราย ซึ่งอาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ ขอให้เว้นจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้นอาจได้ไม่คุ้มเสียทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ เพราะผู้บริโภคในปัจจุบัน มีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทาง และมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคา และคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถเลือกรับบริการจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และพิจารณามาตรการที่เหมาะสมมาดูแลต่อไป
ขณะที่ยอดลงทะเบียนร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมถึงปัจจุบัน มีผู้ลงทะเบียนแล้วรวมทั้งสิ้นประมาณ 4 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จประมาณ 3.8 ล้านคน ซึ่งขณะนี้กำลังทยอยแจ้งผลทางข้อความ SMS ภายใน 3 วันนับจากวันที่ลงทะเบียน และ มีลงทะเบียนไม่สำเร็จอีกประมาณ 200,000 คน
สำหรับ “ผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ” สามารถลงทะเบียนใหม่ได้เลย แต่ก่อนลงทะเบียนใหม่นั้น แนะนำให้ตรวจสอบความถูกต้องของการสะกดชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด หรือ เลขที่บัตรประชาชน หรือ รหัสหลังบัตร หากผิดที่ใดที่หนึ่ง จะส่งผลให้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดการจองที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันวันแรก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า มีอัตราการจองของประชาชนแล้วอยู่ที่ 3.6 ล้านคน โดยนับจากการที่โรงแรมที่พัก ได้ส่งอัตราค่าห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้ชำระเงิน โดยเมืองหลักยังคงได้รับความนิยมสูง
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ มียอดจองสูงสุดในภาคตะวันออกและตะวันตก โดยประชาชนนิยมจองโรงแรมติดทะเล และส่วนใหญ่จะจองเพียง 1 คืน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะไกล ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดกระบี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมจองที่พักจำนวน 2 คืน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า ทางด้านระบบสมัครรับสิทธ์ ระบบการแจ้งยอด และ ระบบชำระค่าห้องพักนั้น ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี คาดว่า ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ประชาชนจะทยอยเข้าร่วมโครงการฯ และ จองห้องพักมากขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์หน้า ที่มีช่วงวันหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่จะเริ่มมีการเดินทางในช่วงวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป
ในส่วนสิทธิพิเศษ ตามโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นั้น รัฐได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ซึ่งจองได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งมีด้วยกัน 5 ล้านสิทธิ์
ทั้งนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือ และย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่พักว่า อย่าใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาที่พัก หลังพบข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่า มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่า มีการขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
“หากพบว่า โรงแรมมีการขึ้นราคาจริง โรงแรมจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการทันที ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆ อันเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาครวม จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ฉวยโอกาสกับประชาชน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลงทะเบียนท่องเที่ยวคึกคัก! แห่จองที่พัก ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เฉียด 9 หมื่นสิทธิ์
- เราเที่ยวด้วยกัน ลงทะเบียนไม่สำเร็จทำยังไงดี ที่นี่มีคำตอบ!!
- เตือน!! ผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสอัพราคาโรงแรม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’