World News

‘หุ้นเอเชีย’ เคลื่อนไหวน้อย จับตา ‘อียู-สหรัฐ’ หารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว จากการที่นักลงทุนจับตามองถึงการออกมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจจากกลุ่มยูโรโซน และสหรัฐ มากขึ้น เพื่อช่วยเศรษฐกิจให้รับแรงกระทบจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทั่วโลก

ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 22,616.23 จุด ลดลง 80.19 จุด หรือ 0.35% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ที่ 25,082.91 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ 0.02% ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,281.67 จุด เพิ่มขึ้น 67.54 จุด หรือ 2.10% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,604.21 จุด ลดลง14.27 จุด หรือ 0.54%

Stocks ๒๐๐๗๒๐

ตลาดหุ้นจีน ทะยานสูงขึ้น แรงหนุนจากการที่ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้ สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ศูนย์ระดมทุนระหว่างธนาคารแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดธนาคารกลางจีน จะเปิดเผยระดับอัตราดอกเบี้ย LPR ในทุกๆ เดือน โดยมาตรการดังกล่าว ถือเป็นการปรับปรุงและปฏิรูปกลไกในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR และเป็นความพยายามล่าสุดที่จะปรับลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง

อย่างไรก็ดี ตลาดเอเชีย ยังเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว จากการที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยัง การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะมีการหารือเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงกันได้ และอาจต้องขยายเวลาการประชุมออกไป

ส่วนสภาคองเกรส สหรัฐ ก็มีกำหนดที่จะเริ่มต้นการหารือเกี่ยวกับมาตรการที่จะช่วยเหลือเศรษฐกิจครั้งใหม่ ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการล็อกดาวน์รอบใหม่ของหลายรัฐ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

Avatar photo