Technology

‘ไมโครซอฟท์’ คาดปี 63 คนตกงาน 250 ล้าน จ่อฝึกทักษะ 25 ล้านคน รับมือยุคดิจิทัล

ประธานไมโครซอฟท์ ระบุ โลกกำลังเผชิญความท้าทายในการหางานทำอย่างมาก คาดปี 2563 จะมีคนตกงานราว 250 ล้านคน ประกาศแผนฝึกทักษะ และอบรม 25 ล้านทั่วโลก รับมือการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล 

นายแบรด สมิธ ประธานไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสหรัฐ  กล่าวว่า ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ เพื่อหางานทำให้ได้ หรือรักษางานที่ตัวเองทำอยู่ไว้ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น

GettyImages 1200877480

ไมโครซอฟท์ ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า มีแผนจะฝึกทักษะและอบรมให้กับคน 25 ล้านคนทั่วโลกภายในปีนี้ เพื่อช่วยให้คนเหล่านี้มีงานทำ โดยลิงด์อิน (LinkedIn) บริษัทในเครือไมโครซอฟท์จะช่วยดำเนินการในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม นายสมิธยอมรับว่ามีงานจำนวนมากในหลายประเทศ ที่ไม่สามารถจะจัดฝึกอบรมทางดิจิทัลได้

“มันคือความจริงที่ว่า ธรรมชาติของงานต่าง ๆ มีความหลากหลายแตกต่างกันไปทั่วโลก ไม่ใช่ว่างานทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัลได้หมด โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา”

“เราอยู่ในโลกของความไม่เท่าเทียมทางอินเทอร์เน็ต ถ้าเราไม่ทำอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ ความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องอื่น ๆ ก็จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก นี่คือภารกิจที่บริษัทเดียว หรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งทำไม่ได้ แต่ถ้าเราสามารถเข้าถึงคน 25 ล้านคนได้ เราก็จะรู้สึกว่า เราได้ทำในส่วนที่เราควรทำแล้ว”

ไมโครซอฟท์จะบริจาคเงิน 20 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 624 ล้านบาท ให้แก่องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรต่าง ๆ ในโครงการนี้ นอกเหนือจากการให้ใช้บริการต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นายสมิธ ยังแสดงความเห็นถึงเรื่องที่ว่า คนจำนวนมากคิดว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี ทรงอิทธิพลมากเกินไป และจำเป็นต้องมีการควบคุม

“เทคโนโลยีคือเครื่องมืออันทรงพลัง แต่ก็เป็นอาวุธที่ร้ายแรงได้ถ้าตกอยู่ในมือของคนที่ไม่ดี  ดังนั้น นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเทคโนโลยีที่จะ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าที่เคยเป็นมา”

“ผมคิดว่า ผู้คนมีคำถามมากขึ้นกว่าที่เคย และนั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย การทำให้ผู้คนมั่นใจว่าเทคโนโลยีคือพลังในด้านดี รัฐบาลต่าง ๆ จำเป็นต้องพัฒนากฎหมายที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องควบคุมตัวเองบ้าง

“ปัญหาเกือบทุกอย่างจะแก้ไขไม่ได้ถ้าไม่มีเรา”

GettyImages 1248409190

การทำให้สังคมโลกเห็นชอบกับการควบคุม และเก็บภาษีด้านเทคโนโลยี นับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง และหลายประเทศก็เกรงว่า เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล จะยิ่งทำให้การเก็บภาษีเงินได้ยากขึ้นไปอีก ทั้งที่รัฐบาลทั่วโลกต้องการภาษีเงินได้นับล้านล้านดอลลาร์  มาช่วยชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะนำไปสู่การใช้หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่เร็วขึ้นไปอีก ซึ่งประธานไมโครซอฟท์ มองว่า บริษัทเทคโนโลยีควรมีความรับผิดชอบ ต่อผลกระทบที่มีต่อการจ้างงาน ที่เกิดจากบริษัทเหล่านี้

“ข่าวดีคือรัฐบาลต่าง ๆ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็น ในการทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องมีความรับผิดชอบ และตอบสนองภายใต้กฎหมาย”

เขาย้ำว่า ภาครัฐและเอกชน มีหน้าที่ช่วยให้ประชาชนมีทักษะที่จำเป็น เพื่อทำให้ตัวเองได้ประโยชน์ จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มากกว่าจะได้รับผลกระทบ

“ผมคิดว่าเราทุกคนจำเป็นต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ แต่ปัญหาเกือบทุกอย่างจะแก้ไขไม่ได้ถ้าไม่มีเรา เราต้องอยู่บนโต๊ะเจรจา”

ที่มา : บีบีซี ไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo