ประธานไมโครซอฟท์ ระบุ โลกกำลังเผชิญความท้าทายในการหางานทำอย่างมาก คาดปี 2563 จะมีคนตกงานราว 250 ล้านคน ประกาศแผนฝึกทักษะ และอบรม 25 ล้านทั่วโลก รับมือการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล
นายแบรด สมิธ ประธานไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสหรัฐ กล่าวว่า ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ เพื่อหางานทำให้ได้ หรือรักษางานที่ตัวเองทำอยู่ไว้ ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น
ไมโครซอฟท์ ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า มีแผนจะฝึกทักษะและอบรมให้กับคน 25 ล้านคนทั่วโลกภายในปีนี้ เพื่อช่วยให้คนเหล่านี้มีงานทำ โดยลิงด์อิน (LinkedIn) บริษัทในเครือไมโครซอฟท์จะช่วยดำเนินการในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม นายสมิธยอมรับว่ามีงานจำนวนมากในหลายประเทศ ที่ไม่สามารถจะจัดฝึกอบรมทางดิจิทัลได้
“มันคือความจริงที่ว่า ธรรมชาติของงานต่าง ๆ มีความหลากหลายแตกต่างกันไปทั่วโลก ไม่ใช่ว่างานทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัลได้หมด โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา”
“เราอยู่ในโลกของความไม่เท่าเทียมทางอินเทอร์เน็ต ถ้าเราไม่ทำอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ ความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องอื่น ๆ ก็จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก นี่คือภารกิจที่บริษัทเดียว หรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งทำไม่ได้ แต่ถ้าเราสามารถเข้าถึงคน 25 ล้านคนได้ เราก็จะรู้สึกว่า เราได้ทำในส่วนที่เราควรทำแล้ว”
ไมโครซอฟท์จะบริจาคเงิน 20 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 624 ล้านบาท ให้แก่องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรต่าง ๆ ในโครงการนี้ นอกเหนือจากการให้ใช้บริการต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นายสมิธ ยังแสดงความเห็นถึงเรื่องที่ว่า คนจำนวนมากคิดว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี ทรงอิทธิพลมากเกินไป และจำเป็นต้องมีการควบคุม
“เทคโนโลยีคือเครื่องมืออันทรงพลัง แต่ก็เป็นอาวุธที่ร้ายแรงได้ถ้าตกอยู่ในมือของคนที่ไม่ดี ดังนั้น นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเทคโนโลยีที่จะ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าที่เคยเป็นมา”
“ผมคิดว่า ผู้คนมีคำถามมากขึ้นกว่าที่เคย และนั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย การทำให้ผู้คนมั่นใจว่าเทคโนโลยีคือพลังในด้านดี รัฐบาลต่าง ๆ จำเป็นต้องพัฒนากฎหมายที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องควบคุมตัวเองบ้าง
“ปัญหาเกือบทุกอย่างจะแก้ไขไม่ได้ถ้าไม่มีเรา”
การทำให้สังคมโลกเห็นชอบกับการควบคุม และเก็บภาษีด้านเทคโนโลยี นับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง และหลายประเทศก็เกรงว่า เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล จะยิ่งทำให้การเก็บภาษีเงินได้ยากขึ้นไปอีก ทั้งที่รัฐบาลทั่วโลกต้องการภาษีเงินได้นับล้านล้านดอลลาร์ มาช่วยชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะนำไปสู่การใช้หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่เร็วขึ้นไปอีก ซึ่งประธานไมโครซอฟท์ มองว่า บริษัทเทคโนโลยีควรมีความรับผิดชอบ ต่อผลกระทบที่มีต่อการจ้างงาน ที่เกิดจากบริษัทเหล่านี้
“ข่าวดีคือรัฐบาลต่าง ๆ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็น ในการทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องมีความรับผิดชอบ และตอบสนองภายใต้กฎหมาย”
เขาย้ำว่า ภาครัฐและเอกชน มีหน้าที่ช่วยให้ประชาชนมีทักษะที่จำเป็น เพื่อทำให้ตัวเองได้ประโยชน์ จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มากกว่าจะได้รับผลกระทบ
“ผมคิดว่าเราทุกคนจำเป็นต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ แต่ปัญหาเกือบทุกอย่างจะแก้ไขไม่ได้ถ้าไม่มีเรา เราต้องอยู่บนโต๊ะเจรจา”
ที่มา : บีบีซี ไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไมโครซอฟท์’ ดึงหลักสูตรระดับโลก เสริมความรู้ผู้นำองค์กรด้าน ‘เอไอ’
- ‘ไมโครซอฟท์’ เปิดแนวคิด ‘เอไอ’ สร้างมิติใหม่อุตฯ ‘อาหาร-พลังงาน’
- ‘ไมโครซอฟท์’ แนะเตรียมความพร้อมบุคลากร หัวใจการ ‘ปฏิรูปธุรกิจ’ สู่ความสำเร็จยุคดิจิทัล