“บริติช แอร์เวย์ส” สายการบินชั้นนำของอังกฤษ ผู้ให้บริการ โบอิง 747 รายใหญ่สุดของโลก ประกาศปลดระวางเครื่องบินรุ่นนี้ทั้งหมด โดยมีผลในทันที เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ อุตสาหกรรมเดินทางโลก ตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก
การควบคุมการเดินทางทั่วโลก เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทาง ทางอากาศ อยู่ในภาวะซบเซาอย่างรุนแรง และทำให้อนาคตของสายการบินจำนวนมาก ตกอยู่ในภาวะที่ไร้เสถียรภาพอย่างหนัก
แถลงการณ์ของ บริติช แอร์เวย์ส ระบุว่า ไม่มีแนวโน้มที่ “ราชินีแห่งท้องฟ้า” ที่งดงาม ของสายการบิน จะให้บริการเชิงพาณิชย์ สำหรับสายการบินได้อีก
อย่างไรก็ดี บริติช แอร์เวย์ส ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า มีเครื่องบินรุ่นนี้ รวมอยู่ในฝูงบินทั้งหมดของบริษัทจำนวนเท่าใด แต่เป็นที่ทราบกันดีในวงการว่า บริติช แอร์เวย์ส เป็นสายการบินที่มีเครื่องบินโดยสารตระกูล 747 มากที่สุด
ขณะที่สถิติจากฐานข้อมูลของบริติช แอร์ไวย์ส เมื่อต้นปีนี้ ระบุว่าสายการบินมีเครื่องบิน 747-400 จำนวน 60 ลำ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังเกิดขึ้นไม่นาน หลังโบอิงออกรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 ก.ค.) ว่า ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร 737 แม็กซ์ รวมกันทั้งสิ้น 60 ลำ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้นับตั้งแต่ต้นปีนี้ มียอดยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ ที่ถูกคำสั่งห้ามขึ้นบินทั่วโลกเป็นอย่างน้อย 355 ลำแล้ว
ทั้งเมื่อเดือนที่แล้ว โบอิง ยังส่งมอบเครื่องบินให้ลูกค้าไปเพียง 10 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินคาร์โก และเครื่องบินทหาร
บริติช แอร์เวย์ส ซึ่งอยู่ในเครืออินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (ไอซีเอจี) บอกด้วยว่า สายการบินจะให้บริการเที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินที่มีความทันสมัย และประหยัดเชื้อเพลิง อย่าง แอร์บัส 350เอส และโบอิง 787เอส มากขึ้น
สายการบินชั้นนำของอังกฤษรายนี้ คาดการณ์ด้วยว่า เครื่องบินใหม่ดังกล่าว จะช่วยให้สายการบินบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0% ได้ภายในปี 2593
ทั้งนี้ กระแสการปรับโครงสร้าง ที่เป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังเกิดขึ้นกับธุรกิจสายการบิน และบริษัทอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยเมื่อเดือนที่แล้ว เดอะ ซัน รายงานว่า บริติช แอร์เวย์ส บรรลุข้อตกลงกับนักบิน ที่จะเลิกจ้างจำนวน 350 คน และกันไว้อีก 300 คน สำหรับความเป็นไปได้ที่จะจ้างงานใหม่ ในกรณีที่จำเป็น
รู้จัก โบอิง 747
ขณะที่ เครื่องบินรุ่น 747 ของโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐนั้น เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมการเดินทางโลกมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 70 และเพิ่งฉลองการบินครบรอบ 50 ปี ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
เครื่องบินขนาดยักษ์รุ่นนี้ของโบอิง เคยเป็นเครื่องบินโดยสาร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่แอร์บัส เอ 380 จะแล้วเสร็จ โดย โบอิง 747 ไม่มีเครื่องต้นแบบ บินเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ปี 2509 โดยสายการบินแพนแอม เป็นสายการบินแรกที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ ให้บริการในเส้นทางนิวยอร์ก-ลอนดอน เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2513
ข้อมูลจำเพาะ
ผู้สร้าง: บริษัท โบอิง คอมเมอร์เชียล แอร์เพลน (สหรัฐ)
ประเภท: เครื่องบินโดยสารลำตัวกว้าง พิสัยบินไกล เจ้าหน้าที่ 3 นาย อัตราผู้โดยสารสูงสุด 500 ที่นั่ง
เครื่องยนต์: เทอร์โบแฟน แพรทท์ แอนด์วิทนีย์
- น้ำหนักเปล่า: 170,823 กิโลกรัม
- น้ำหนักบรรทุกสูงสุด: 68,538 กิโลกรัม
- น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด: 371,945 กิโลกรัม
- น้ำหนักร่อนลงสูงสุด: 285,763 กิโลกรัม
- อัตราเร็วขั้นสูง: 969 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- อัตราเร็วเดินทาง: 935 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- เพดานบินใช้งาน: 13,715 เมตร
- ระยะทางวิ่งขึ้นพ้นสิ่งกีดขวาง 35 ฟุต: 3,155 เมตร
- ระยะร่อนลง: 2,109 เมตร
- พิสัยบินไกลสุด: 12,230 กิโลเมตร เมื่อใช้ความเร็วเดินทางไกล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สายการบิน’ ปรับตัวขนส่งสินค้า ดันเที่ยวบินคาร์โก 6 สนามบินหลักเพิ่มเท่าตัว
- ‘โปรโมชั่นสายการบิน’ แข่งดุ! ดึงกระแสเงินสดช่วงเดินทางฟื้นตัว
- สวนกระแสโควิด-19! จีนเตรียมเปิด ‘สายการบินใหม่’ ไปเกาะไหหลำ
