3 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ “กรณิศ-พิมพ์พร-ศิริพงษ์” ขึ้นอภิปรายในสภา ฝากแก้ไขปัญหา 2 เรื่อง “พื้นที่รกร้างใต้ทางด่วน-ปรับปรุงแหล่งน้ำเพชรบูรณ์” ชื่นชมนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดระยอง
ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ หารือประธานสภา ผ่านไปยัง การทางพิเศษ โดยกระทรวงคมนาคม ให้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ แก้ไขปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางด่วน 3 ใน 5 ของกรุงเทพมหานคร ที่ปล่อยให้รกร้าง จนขาดการพัฒนาจนเป็นพื้นที่ทิ้งขยะและแอ่งน้ำขัง ก่อให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย และการเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
ซึ่งนางกรณิศ กล่าวว่า ขอให้มุ่งเน้นแก้ปัญหาใน 3 ส่วน คือ การพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างอาชีพ การพัฒนาพื้นที่เพิ่มพื้นที่สีเขียว และการพัฒนาพื้นที่ด้านสุขภาพ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จไปบ้างแล้วบางส่วน ทั้งศูนย์เยาวชนสะพานพระราม 9 ลานกีฬาพัฒน์ 2 และสวนวัชราภิรมย์
นอกจากนี้ ยังขอให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนในเรื่องของการค้าขายพื้นที่ใต้ทางด่วนเพิ่มอาชีพเป็นรายได้ให้กับประชาชนเนื่องจากที่ผ่านมาประสบกับปัญหาวิกฤติโควิด-19 ขาดรายได้และอาชีพมาอย่างหนัก
ทางด้านนางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส. เพชรบูรณ์ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือประธานสภา ถึงการบริหารจัดการ และบูรณาการปรับปรุงแหล่งน้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประโยชน์ด้านการเกษตร และการอุปโภค-บริโภคอย่างยั่งยืน
จากข้อมูลปัจจุบันของกรมชลประทานแสดงให้เห็นว่า หากจะเพียงพอต่อการใช้น้ำตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำต้นทุนจะต้องมีมากถึง 502 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์ กว่า 11 แห่ง ลดลงไปกว่าร้อยละ 30-40
นางสาวพิมพ์พร กล่าวว่า สาเหตุอย่างหนึ่ง คือ เกิดจากการทับถมของตะกอน สิ่งกีดขวางทางน้ำ และอุปกรณ์ชำรุด ซึ่งปัจจุบันทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จึงมีความจำเป็นร้องขอรัฐบาล พิจารณาทบทวนจัดสรรงบประมาณ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-เล็ก ตามแผนงบประมาณการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ และโมเดลแผนทฤษฎีใหม่ ให้เป็นไปตามแผนแม่บทของรัฐบาล
ขณะที่ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส. กทม.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายกรณีทหารอียิปต์ และลูกสาวอุปทูตซูดาน ที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานแพทย์สาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ และทุกคน ในการทำงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยองนั้นทำให้ประชาชนตกใจเป็นอย่างมาก และมีผลกระทบทั้งต่อการท่องเที่ยว นักเรียนที่ต้องปิดโรงเรียน และห้างสรรพสินค้าต้องปิดลงชั่วคราว มีผลกระทบต่อเนื่องของประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจในจังหวัดระยองอย่างมาก
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจพี่น้องชาวจังหวัดระยอง รวมถึงนักธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทั้งหลาย และสภาแห่งนี้ ที่มีสมาชิก 500 คน มีความเป็นห่วง เพราะว่าจังหวัดระยองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำเงินเข้าสู่ประเทศอย่างมากมาย
พร้อมกันนี้ ยังขอชื่นชมนายกรัฐมนตรี ที่ได้ลงไปรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ที่จังหวัดระยองด้วยตัวเอง แม้จะมีทั้งผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน แต่เชื่อว่าจะมีผู้เห็นด้วยมากกว่า เพราะประเทศไทยได้รับความชื่นชมมามาตลอดในการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงขอเป็นกำลังใจ อย่าทะเลาะกัน และสร้างสามัคคีกัน ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพราะประเทศไทยต้องชนะอีกครั้งหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ปัญญา’ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ขอพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ป้องกันน้ำท่วม ‘ปาย’
- ‘ส.ส.จักรพันธ์’ ขอการรถไฟฯช่วยปรับปรุง ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้
- ‘ส.ส.พัชรินทร์’ ร้องรัฐบาล เพิ่มงบปรับพฤติกรรมผู้ต้องขัง ช่วยลดทำผิดซ้ำ