ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ ท่ามกลางความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจ หลังหลายรัฐทั่วสหรัฐ ระงับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,779.48 จุด ลดลง 90.62 จุด หรือ 0.34% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,202.83 จุด ขยับลงมา 23.73 จุด หรือ 0.74% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,368.49 จุด ลบ 182.00 จุด หรือ 1.73%
วันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกเมื่อเดือนมิถุนายน พุ่งขึ้นมาถึง 7.5% สูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะปรับตัวขึ้น 5% ส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นมา จากภาวะซบเซาที่มีสาเหตุจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
แต่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ในประเทศ ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จนทำให้หลายรัฐ อาทิ แคลิฟอร์เนีย ต้องนำมาตรการล็อกดาวน์กลับมาใช้ใหม่นั้น ทำให้เกิดความกังวลว่า ธุรกิจจะได้รับความเสียหายมากขึ้น สร้างแรงกดดันขาลงให้กับตลาด
นักลงทุนยังผิดหวังต่อตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ที่สูงเกินคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเป็นครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านคน สูงกว่าที่ประเมินกันไว้ว่าจะอยู่ราว 1.25 ล้านคน
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกดังกล่าว ยังน้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ที่มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเป็นครั้งแรกจำนวน 1.31 ล้านราย และยังเป็นจำนวนน้อยที่สุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมีนาคม
