“บางจาก” ผนึกองค์กรรัฐ-เอกชน หนุนเอสเอ็มอี พัฒนานวัตกรรมสินค้า ส่งเสริมการตลาดและช่องทางจำหน่าย ดันขาย‘สพาร์’ ต่างประเทศ
หนึ่งในจุดยืนของกลุ่มบางจาก คอร์ปอเรชั่น คือการสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียว โดยมีหลายโครงการ ทั้งด้านพลังงาน กิจกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) รวมทั้งการสนับสนุน “เอสเอ็มอี” พัฒนานวัตกรรมสินค้า
ล่าสุด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ด้วยการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมสีเขียวสู่ตลาดสากล โดยร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันอาหาร (NFI) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทบางจากฯ โดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจบางจาก (BiiC) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ผู้ดำเนินธุรกิจกลุ่มนอน-ออยล์ (Non-Oil)
จัดโครงการ SPAR Awards หนุนเอสเอ็มอี
นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในนาม SPAR Thailand ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสพาร์ ในประเทศไทย ซึ่งได้รับมาสเตอร์ แฟรนไชส์ จาก SPAR International ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกระดับโลก จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือกับ 8 องค์กรรัฐและเอกชน รวมทั้ง สถาบัน BiiC และ บางจาก รีเทล ได้จัดทำโครงการ SPAR Awards ซึ่งเป็นโครงการประกวดผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เพื่อคัดเลือกสินค้าสู่การวิจัยและพัฒนาให้เป็น SPAR Signature Products โดยแบ่งรางวัลออกเป็น รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ อันดับ 2 ภายใต้เกณฑ์การตัดสิน 4 ด้าน ได้แก่ นวัตกรรม (Innovation) ความแตกต่าง (Differentiate) คุณภาพและมาตรฐาน (Quality Standard) และยอดขาย (Sales) โดยมีทั้ง 8 องค์กรพันธมิตรเข้ามาช่วยเหลือในการแนะนำและบ่มเพาะธุรกิจ
โดยจะเริ่มเปิดรับสินค้าและบริการเข้าร่วมประกวดในโครงการเดือนกันยายนนี้ ตัดสินผลงานชนะรางวัลเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นเปิดให้เริ่มวางจำหน่ายสินค้าที่ชนะประกวดในร้านสพาร์ 3 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในช่วง 3 เดือนนี้ หากสามารถทำยอดขายได้เกินค่าเฉลี่ยสินค้าประเภทเดียวกัน บริษัทจะสนับสนุนให้นำสินค้าส่งออกไปจำหน่ายในร้านสพาร์ ต่างประเทศ ที่มีหลากหลายรูปแบบทั้ง คอนวีเนียน สโตร์,ซูเปอร์ มาร์เก็ต และไฮเปอร์ มาร์เก็ต กว่า 50 ประเทศ
บางจากฯ เห็นโอกาสสินค้าไทยในตลาดโลก และจะเป็นสะพานเชื่อม นำเอสเอ็มอี ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสู่ตลาดสากล
ปั้นสินค้า“ซิกเนเจอร์”ขาย สพาร์-อินทนิล
นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่าการประกวด SPAR Awards วางแผนจัดประกวดสินค้านวัตกรรมทุกไตรมาสต่อเนื่อง เพื่อมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมทั้งสินค้าต้นแบบที่เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสินค้าของประเทศไทย ให้มีความโดดเด่น แตกต่างและน่าสนใจ
นอกจากนี้ยังเป็นการหา Signature Products เพื่อจำหน่ายในร้านสพาร์และอินทนิล โดยสิ้นปีนี้จะมีสพาร์ 50 สาขา ภายใน 5 ปี อยู่ที่ 200-300 สาขา ส่วนร้านกาแฟอินทนิล ปัจจุบันเปิดดำเนินการกว่า 500 สาขา ภายใน 2-3 ปี จะเปิดเพิ่มอีก 1,000 สาขา รวมเป็น 1,500 สาขา ด้วยช่องทางราว 2,000 สาขา ในเครือข่ายกลุ่มบางจากฯ จะเป็นช่องทางด้านการตลาดและจำหน่ายสนับสนุนสินค้าเอสเอ็มอี
ในร้านสพาร์ มีสินค้ากลุ่มเอสเอ็มอี วางจำหน่ายประมาณ 4% หลังจากทำโครงการ SPAR Awards เพื่อช่วยเอสเอ็มอีพัฒนานวัตกรรมสินค้า ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนสินค้าเอสเอ็มอีเป็นตัวเลข 2 หลัก
หนุนการตลาด-ช่องทางจำหน่ายเอสเอ็มอี
นายสุวัฒน์ มีมุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสถาบัน BiiC จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจใหม่ ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตามนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 รวมไปถึงการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพไทยและต่างประเทศ ผ่านกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมูลค่า 1,500 ล้านบาท ที่จะใช้ลงทุนในช่วง 5 ปีนี้ เพื่อนำเทคโนโลยีมาต่อยอดกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจากฯ
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ในการบ่มเพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ด้านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ เพื่อร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโต
“บางจากฯ จะสร้างอีโคซิสเต็ม ที่ช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ โดย BiiC จะร่วมบ่มเพาะและพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีร่วมกับพันธมิตร โดยมี สพาร์และอินทนิล เป็นผู้สนับสนุนการตลาดและช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพื่อช่วยเอสเอ็มอีต่อยอดธุรกิจ”
