Finance

จับตา! หุ้นไทยส่อร่วง 1,280 – 1,300 จุด หากโควิดระบาดรอบ 2

“บล.ไทยพาณิชย์” มองตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังแกว่ง 1,428 จุด ชี้ดัชนีส่อดิ่ง 1,280-1,300 จุด หากโควิดระบาดรอบ 2 ประเมินหุ้นไทยปีหน้าแกว่ง 1,430 จุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในครึ่งปีหลังยังเป็นลักษณะแกว่งตัว แม้ไทยจะเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศ แต่ภาคการบริโภคยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงจากการระบาดรอบ 2 ซึ่งในต่างประเทศเกิดขึ้นแล้ว โดยประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังอยู่ที่ 1,428 จุด แต่หากไทยเกิดการระบาดรอบ 2 และมีการล็อคดาวน์ในบางพื้นที่ อาจทำให้ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงไปอยู่ที่ 1,280 – 1,300 จุด

หุ้นไทย13763

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 3/2563 แนะนำหุ้นกลุ่ม Defensive โดยให้มองบริษัทที่มีสภาพคล่องสูง กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิดน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว ได้แก่ กลุ่มอาหาร กลุ่มค้าปลีก กลุ่มขนส่งในประเทศ และกลุ่มสื่อสาร

ทั้งนี้ แนะนำ ADVANC BBL ERW HANA และ IVL ในขณะที่ยังคงเก็บหุ้น top pick ไตรมาส 2/63 คือ BDMS BEM BTS และ CPF ส่วนหุ้นที่ลงทุนแบบเก็งกำไรได้ คือ กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มพลังงาน และกลุ่มขนส่ง พร้อมประเมินเป้าหมายดัชนีปี 2564 โดยอิงจากปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,430 จุด

สำหรับปัจจัยเสี่ยง ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคต แม้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกและประเทศไทยจะทำจุดต่ำสุดใน ไตรมาส 2/2563 แต่เมื่อมองต่อไปข้างหน้าอาจจะมีความเสี่ยง downside บางอย่างที่จะส่งผลกระทบทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยเสี่ยง 3 ประการ ได้แก่

1. การลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐในระยะหลังนี้ตลาดการเงินทั่วโลกเปลี่ยนมาอยู่ในภาวะ risk-on เนื่องจาก Fed ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ 0% และดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการซื้อพันธบัตรแบบไม่จำกัดวงเงิน

2. การระบาดรอบสองของไวรัส COVID-19 โดยสหรัฐ กำลังเผชิญกับการระบาดรอบสอง ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน รัฐเท็กซัส ฟลอริดา แคลิฟอร์เนีย และอริโซนา รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด การพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นมากทำให้ผู้เชี่ยวชาญเกิดความกังวล

3. ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งเชื่อว่าความเสี่ยงใหม่กำลังก่อตัวขึ้นและอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคต ทั้งประเด็นการค้าที่สหรัฐบีบให้จีนนำเข้าเพิ่มขึ่น ประเด็นเทคโนโลยีที่ต่ออายุการแบน Huawei และ ZTE อีก 1 ปี และประเด็นเงินทุนที่สภาผ่านร่างกฎหมายที่ให้อำนาจสหรัฐในการเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทจีนจากตลาดหลักทรัพย์หากไม่ทำตามข้อกำหนดสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo