หลังจากที่เศรษฐกิจอาร์เจนตินาเฟื่องฟูในปี 2560 และพรรคร่วมพันธมิตรของประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บรรดานักเศรษฐกิจต่างพากกันคาดหวังถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของประเทศลาตินอเมริกาใต้รายนี้ มาตั้งแต่ต้นปี 2561
แต่สถานการณ์ล่าสุดของเงินเปโซ แสดงให้ทั้งอาร์เจนตินา และเหล่านักลงทุนเห็นว่า ภาวะความผันผวนด้านการเงินของประเทศที่มีอย่างยาวนาน ยังไม่มีวี่แววที่จะยุติได้ง่ายๆ
อัตราแลกเปลี่ยน
นับเป็นเวลานานมาแล้ว ที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์พากันโต้แย้งว่า เงินเปโซอาร์เจนตินาถูกกำหนดไว้สูงเกินความเป็นจริง ซึ่งรัฐบาลก็ยอมรับว่า เงินเปโซอาจค่อยๆ อ่อนค่าลงไปอย่างต่อเนื่องหลายปี แต่ไม่มีใครคาดว่า อัตราแลกเปลี่ยนเปโซต่อดอลลาร์ จะดิ่งลงไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผลจากการที่นักลงทุนพากันวิตกเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วโลก
การอ่อนค่าของเปโซ ทำให้หนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินาที่อยู่ในรูปดอลลาร์ มีต้นทุนมากขึ้น จนทำให้รัฐบาลต้องหันไปหากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อขอเงินกู้จำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์
ระดับเงินเฟ้อประเทศ
เงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับสูงมากของอาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจอาร์เจนตินามีความผันผวนมากกว่าตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และทำให้นักลงทุนตีตัวออกห่างจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
นับเป็นเวลานานหลายปี ที่รัฐบาลประชานิยมชุดก่อนของอาร์เจนตินา พิมพ์เงินออกมาจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล ทำให้ราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลนายมาครี ได้ลดพฤติกรรมนี้ลงมา
อย่างไรก็ดี การที่นายมาครีตัดสินใจขึ้นราคาค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะลดการอุดหนุน และยุติการขาดดุลงบประมาณ ยิ่งทำให้ระดับเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเงินเปโซดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้เงินเฟ้อทะยานสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
ธนาคารกลางอาร์เจนตินาตอบสนองต่อการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินเปโซ และการทะยานขึ้นของเงินเฟ้อ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 45% และ 60% ตามลำดับ พร้อมเทขายเงินดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อปกป้องเงินเปโซ
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอาร์เจนตินา ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมานับตั้งแต่นายมาครีเข้ารับตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2558 ลดลงไปอย่างมาก และแม้เงินกู้จากไอเอ็มเอฟจะช่วยหนุนทุนสำรองดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นปัจจัยกดดันเงินเปโซอยู่ ทำให้ธนาคารกลางต้องกลับเข้ามาแทรกแซงตลาดอีกคร้ั้งช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
กิจกรรมเศรษฐกิจ
นอกจากจะต้องเจอกับพายุการเงิน ผลจากเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากแล้ว อาร์เจนตินายังโชคร้าย ต้องเจอกับสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม อย่าง ภัยแล้งครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี ที่ทำให้ผลผลิตถั่วเหลือง และข้าวโพด พืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ลดลงไปอย่างมาก
ปัจจุบันเศรษฐกิจอาร์เจนตินาหดตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ภายใต้การนำของภาคเกษตร ตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์แน่ใจว่าจะเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจขึ้นมา
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เศรษฐกิจร่วงลงไป 6.7% ถือเป็นการร่วงลงรายเดือนครั้งรุนแรงสุด นับแต่เกิดวิฤติการเงินโลกในปี 2552
ยอดแรงงานขึ้นทะเบียน
ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจดังกล่าว กลายมาเป็นภัยคุกคามต่อ 2 นโยบายหลักในการหาเสียงของนายมาครี คือ การทำให้คนจนในประเทศเหลือ 0% และการสร้างงานที่มีคุณภาพสำหรับชาวอาร์เจนตินา
ในช่วงต้นเดือนส.ค.นี้ นายมาครียอมรับว่า มีแนวโน้มที่ประชากรยากจนจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะเงินเฟ้อพุ่ง และเศรษฐกิจขาลง ขณะที่ตัวเลขแรงงานที่ไปขึ้นทะเบียนกับทางการ ก็เริ่มลดลงมา จากที่เคยแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2560
รัฐบาลอาร์เจนตินาวางแผนที่จะลดการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนหนึ่งการให้คำมั่นที่จะลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณตามข้อตกลงที่ทำไว้กับไอเอ็มเอฟ ซึ่งจะทำให้การจ้างงานลดลงไปอีก ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้กับผู้นำอาร์เจนตินา ที่เตรียมจะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งในปี 2562
ที่มา: Reuters