Business

อ่านด่วน!! เราเที่ยวด้วยกัน ตอบ 8 คำถามยอดฮิต เช็คก่อนชิงสิทธิ์ 15 ก.ค.นี้

เราเที่ยวด้วยกัน ตอบ 8 คำถามยอดฮิต เปิดทุกข้อสงสัย อ่านก่อนลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ที่นี่ ย้ำ! เปิดชิงสิทธิ์ 15 ก.ค.นี้

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว หลังจากได้รับผลกระทบจาก “โควิด” ผ่านโครงการ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และ ช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจาก “โควิด” เป็นระยะเวลา 4 เดือน อย่างโครงการ “กำลังใจ” และ “เราเที่ยวด้วยกัน”

ทั้งนี้ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ใช้กรอบวงเงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วน “กําลังใจ” ใช้กรอบวงเงินงบประมาณ 2,400 ล้านบาท รวมทั้งสองแพ็คเงินเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 โดยทั้งสองแพ็คเกจสามารถใช้สิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย และ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

เราเที่ยวด้วยกัน

โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 แบบไม่จำกัดจำนวน คือ เข้ามากี่ล้านคนก็ได้ โดยลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. ทุกวัน จากนั้นจะต้องรอ SMS ยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน

เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วต้องรีบเข้าไปจองโรงแรม หรือ โฮมสเตย์ เพราะสิทธิ์ดังกล่าวมีจำกัดแค่ 5 ล้านคืนเท่านั้น ดังนั้น ใครได้รับสิทธิ์แล้ว จะต้องรีบไปจองทันที เช่นเดียวกับสิทธิ์การได้รับเงินคืนจากตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ที่จำกัดไว้แค่ 2 ล้านใบ

ทั้งนี้ ใครใช้ก่อนมีสิทธิ์ก่อน และ ขอย้ำกว่าการได้สิทธิ์ตั๋วเครื่องบิน ต้องผูกกับการจองห้องพักผ่านระบบเท่านั้น ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 2 ใบต่อ 1 ห้องพัก ผู้รับสิทธิ์จะต้องจ่ายเงินไปก่อน เมื่อบินแล้วต้องมาแจ้งขอคืนเงิน โดยจะมีการโอนเงินคืนให้ ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน การร่วมรับสิทธิ์ส่วนนี้ ต้องรีบเข้ามาลงทะเบียนเพราะจำกัดแค่ 2 ล้านใบ

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ดูแลระบบ คาดว่า จะเริ่มมีการเข้าพักครั้งแรก จากโครงการนี้วันที่ 21 กรกฎาคม 2563

สำหรับเงื่อนไขสำคัญในการลงทะเบียนสำหรับประชาชน มีดังนี้

1. มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย

2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. ประชาชนจะได้รับสิทธิ์เมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเองเท่านั้น

เราเที่ยวด้วยกัน

ทั้งนี้ www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com ได้ตอบข้อสงสัย ในการลงทะเบียนสำหรับประชาชน 8 ข้อดังนี้

  • ช่องทางการลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางไหนบ้าง และจํากัดจํานวนผู้ลงทะเบียนหรือไม่
    – ประชาชนและร้านค้า สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ที่ www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com เท่านั้น ไม่จำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน
  • จะตรวจสอบผลการลงทะเบียนอย่างไร และทําการแจ้งผลผ่านช่องทางไหน หากไม่มี e-mail สามารถลงทะเบียนได้ไหม
    – สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้จาก sms ระบบจะส่ง sms แจ้งผลจากชื่อผู้ส่ง “TTogether” แจ้งไปยังเบอร์ที่รับรหัส OTP
  • การใช้สิทธิสามารถใช้สิทธิได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านใช่หรือไม่
    – ประชาชนที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย สามารถเดินทางท่องเที่ยวทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านตนเอง
  • สิทธิส่วนลดค่าที่พัก (40%] และ สิทธิใช้จ่ายซื้อของจากร้านอาหาร / สถานที่ท่องเที่ยว(600 บาท/วัน) มีกําหนดระยะเวลาหรือไม่ว่าหมดอายุภายในกี่วัน
    – บัตรกำนัลส่วนลดโรงแรมและอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวจะมีอายุการใช้งานถึง 23.59 น. ของวันที่จอง เช็คเอ้าท์ ที่พัก
  • สิทธิต่อประชาชน 1 คน สามารถจองห้องพักได้ครั้งละที่ห้อง มีจํากัดหรือไม่
    – ประชาชนมีสิทธิ 1 คนต่อ 5 ห้อง/คืน ซึ่งสามารถจองกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้สิทธิส่วนลดห้องพักได้ไม่เกิน 5 ห้องคืน
  • สิทธิใช้จ่ายซื้อของจากร้านค้า (600 บาท/วัน) สามารถกดออกมาเป็นเงินสด หรือ โอนเข้าบัญชีได้หรือไม่
    – บัตรกำนัลส่วนลดอาหารไม่สามารถโอนออกหรือใช้เป็นเงินสดได้
  • กรณีประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ จ่ายชําระค่าจองที่พัก (60%) แล้วมีการยกเลิกการจอง จะต้องแจ้งอะไรกับทางภาครัฐหรือไม่ สิทธิยังคงไปใช้จองที่ใหม่ได้อีกหรือไม่
    – ตามเงื่อนไขของโครงการ เมื่อทำการจองที่พักและชำระเงินส่วน 60% แล้วจะไม่สามารถยกเลิกและเปลี่ยนการจองได้
  • ประชาชนที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯจะสามารถจองโรงแรมผ่านช่องทางใด
    – Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda , Traveloka
    – Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี)
    – www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม
    – ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line , Facebook , เบอร์โทรศัพท์

ขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่าน แอปเป๋าตัง หลังจากได้รับ SMS แล้ว

1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ผ่าน Google Play Store หรือ App Store

2. เมื่อเปิดแอพพ์ขึ้นมา ให้เลือก G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน

  • กรณีลงทะเบียนแล้ว เลือก เข้าใช้งาน G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน
  • กรณียังไม่ได้ลงทะเบียน เลือก ลงทะเบียน G-Wallet

3. ยอมรับข้อตกลงการให้ข้อมูลและยินยอมให้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

4. ยืนยันด้วยบัตรประชาชน

5. ทำการสแกนบัตรประชาชน

6. ยืนยันรหัส OTP จากเบอร์มือถือที่ผูก เป๋าตัง

7. สแกนใบหน้า

8. เข้าสู่หน้าหลัก และ เริ่มการใช้งาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo