Politics

‘อุตตม’ โพสต์เปิดใจ! ลั่นอนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ ‘บิ๊กตู่’

“อุตตม” โพสต์เปิดใจหลังประกาศลาออกจาก “พลังประชารัฐ” ยันไม่มีแนวคิดจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ “นายกรัฐมนตรี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 ก.ค.) หลังจากที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการบริหารพรรค ได้ประกาศยุติบทบาทกับพรรคพลังประชารัฐนั้น

อุตตม107631

ล่าสุด นายอุตตม โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ดร.อุตตม สาวนายน โดยระบุว่า ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ทุกท่านคงทราบข่าวเกี่ยวกับการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ของผมแล้วหลังจากได้แถลงข่าวไปเมื่อเที่ยงวานนี้ (9 ก.ค.)

ในการแถลงข่าวมีความชัดเจน ถึงสาเหตุที่ผมได้ตัดสินใจไปในครั้งนี้ และผมก็ขอยืนยันว่า ยังมีความผูกพันทางใจกับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค รวมทั้งเป็นคนหนึ่งที่ร่วมก่อร่างสร้างพรรคนี้ขึ้นมา แต่เมื่อวันนี้พรรคมีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ก็เห็นว่าควรที่จะให้ผู้รับผิดชอบชุดใหม่ ได้ทำงานอย่างเต็มที่

สำหรับตัวผมแล้ว ในแง่มุมของการทำงานเพื่อบ้านเมืองนั้น ไม่ว่าจะสวมหมวกใบไหน ก็สามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้

ดังนั้นที่มีหลายคนถามว่า ผมมีความคิดจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือไม่ ผมขอย้ำตรงนี้ว่าไม่มี ขอทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบให้เต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ ไม่เคยคิดเรื่องอื่น ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยประสบปัญหาจากการระบาดของโควิด-19 จนส่งผลต่อภาวะทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก เหตุนี้เราจึงไม่มีเวลาแม้แต่นาทีเดียว ที่จะหยุดคิดหยุดทำ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากภัยเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

สุดท้ายผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ และให้โอกาสผมได้ทำงานรับใช้ ผมยังจำคำพูดที่เคยให้ไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งเลือกตั้ง ว่า ผมจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ผมยังรักษาคำพูดนี้อยู่เสมอ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK