Economics

‘มันสำปะหลัง-ข้าวโพด’ ได้ไปต่อ ‘จุรินทร์’ เคาะเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปีที่ 2

“จุรินทร์” อนุมัติ เดินหน้าโครงการประกันรายได้  “มันสำปะหลัง-ข้าวโพด” ปีที่ 2 ใช้เงื่อนไขเหมือนเดิม พร้อมมาตรการเสริม เพื่อช่วยลดต้นทุน และดูแลราคา เตรียมนำเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติต่อไป

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบาย และบริหารจัดการมันสําปะหลัง (นบมส.) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ปี 2563/64

ราคา-ปริมาณประกันรายได้ ยังคงเหมือนเดิม คือ มันสําปะหลัง เชื้อแป้ง 25% กิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน และต้องไม่ซ้ำแปลง

gua

หลักเกณฑ์ประกันรายได้ 

  • ขึ้นทะเบียนเพาะปลูก ปี 2563/64 ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564 กับกรมส่งเสริมการเกษตร
  • ต้องเป็นเกษตรกรผู้ผลิตมันสําปะหลังด้วยตนเอง และกรรมสิทธิ์เป็นของเกษตรกร
  • แจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยว กับกรมส่งเสริมการเกษตรนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน
  • กําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 30 พฤศจิกายน 564 ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงทุกวันที่ 1 ของเดือน ระยะเวลา 12 เดือน

สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรก ครอบคลุมเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและที่แจ้งเพาะปลูก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ระบุวันคาดว่าเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และสําหรับการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงงวดสุดท้าย ครอบคลุมเกษตรกรที่ระบุวันที่คาดว่าเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะนําเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

ที่ประชุมยังได้เห็นชอบมาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ

  • โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสําปะหลัง

เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรในการเพิ่มผลิตภาพการผลิต และคุณภาพของผลผลิต เป้าหมาย 5,000 รายๆ ละไม่เกิน 230,000 บาท วงเงินกู้รวม 1,150 ล้านบาท งบประมาณ 69 ล้านบาท

5f06b15c7e43f

  • โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสําปะหลัง และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร

สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรนําไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสําปะหลังสด มันสําปะหลังเส้น เพื่อจําหน่ายต่อ และหรือแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท งบประมาณ 45 ล้านบาท

  • โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสําปะหลัง

สนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการแปรรูปมันสําปะหลัง (ลานมัน/โรงแป้ง) ที่เข้าร่วมโครงการเก็บสต็อก ในรูปแบบมันเส้น/แป้งมัน ระยะเวลา 60–180 วัน

เป้าหมายวงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท งบประมาณชดเชยดอกเบี้ย 225 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยผลผลิตในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

  • บริหารจัดการการนําเข้าส่งออก

เข้มงวดการกํากับดูแลการนําเข้า และส่งออกผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด

GettyImages 1192616671

ขณะเดียวกัน ได้เห็นชอบการขอขยายพื้นที่ดําเนินโครงการป้องกัน และกําจัดโรคใบด่างมันสําปะหลัง ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด ที่มีพื้นที่ปลูกมันสําปะหลัง เนื่องจากการระบาดของโรคใบด่างมันสําปะหลัง มีแนวโน้มแพร่ระบาดไปยังหลายพื้นที่ จากพื้นที่ดําเนินโครงการ 11 จังหวัด ปัจจุบันเพิ่มเป็น 22 จังหวัด โดยเพิ่ม 11 จังหวัด ทําให้การดําเนินโครงการไม่สามารถตัดวงจรการระบาดของโรคได้จำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกทุกจังหวัด

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบาย และบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.)นั้น  ที่ประชุมยังมีมีมติดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 ที่ความชื้น 14.5% ราคา 8.50 บาท/กก. ปริมาณไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง

ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 31 พฤษภาคม 2564 ระยะเวลาชดเชยส่วนต่าง 20 พฤศจิกายน 2563 – 31 ตุลาคม 2564

corn 1605664 640

คณะกรรมการได้เห็นชอบมาตรการคู่ขนาน จำนวน 6 มาตรการ

  • สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร ปี 2563/64

ชดเชยดอกเบี้ย 3% วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย จำนวน 45 ล้านบาท

  • โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในการเก็บสต๊อก ปีการผลิต 2563/64

ให้ผู้ประกอบการ ผู้รวบรวมที่ซื้อข้าวโพดเก็บสต๊อก ระยะเวลา 60–120 วัน โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 15 ล้านบาท

  • มาตรการกำหนดช่วงเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สำหรับผู้นำเข้าทั่วไป
  • กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 ต่อ 3
  • การดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้แสดงราคา ณ จุดรับซื้อที่ความชื้น 14.5% และ 30%
  • การดูแลความสมดุล ให้แจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บ การตรวจสอบสต็อก

ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo