“โกลด์แมน แซคส์” ปรับประมาณการณ์ “เศรษฐกิจสหรัฐ” คาดย่ำแย่หนัก ทั้งปี 63 หดตัว 4.6%
โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) วาณิชธนกิจรายใหญ่ระดับโลก เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ โดยปรับลดตัวเลขคาดการณ์ เศรษฐกิจสหรัฐ ลง โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตที่ 25% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนอยู่ที่ 33%
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทระบุว่า จากตัวเลขคาดการณ์ข้างต้น เศรษฐกิจสหรัฐ จะซบเซาลง 4.6% ในปี 2563 ย่ำแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมซึ่งอยู่ที่ 4.2%
“ข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของแต่ละรัฐ ประกอบกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมตามสมัครใจ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน” ทีมนักเศรษฐศาสตร์กล่าว
ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์คงอัตราการเติบโตคาดการณ์ของจีดีพี (GDP) ในปี 2564 ไว้ที่ 5.8% พวกเขาเชื่อว่าอัตราการว่างงานช่วงปลายปี 2563 จะอยู่ที่ 9% น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 9.5%
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งนำโดยแจน ฮัตซีอุส (Jan Hatzius) ระบุว่า การปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการว่างงานที่ดีขึ้นนี้ อิงกับข้อเท็จจริงที่ว่าเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง พร้อมๆ กับการรักษาระยะห่างทางสังคมไปด้วย
เศรษฐกิจสหรัฐ ซบเซา ตลาดแรงงานกระทบยาว 10 ปี
สำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภา (CBO) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อัตราการว่างงานสหรัฐอยู่ที่ 3.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อัตราการว่างงานก็สูงขึ้นและคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ตัวเลขก็ไม่สามารถลดต่ำมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้
สำนักงานฯ คาดการณ์ผ่านรายงานแนวโน้ม เศรษฐกิจสหรัฐ ระยะ 10 ปี ว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐจะลดลงเหลือ 10.5% ในไตรมาส 4 ของปี 2563 ก่อนจะแตะระดับ 7.6% ในไตรมาส 4 ของปี 2564
แม้อัตราการว่างงานสหรัฐจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะคงอยู่ที่ 4.4% ในไตรมาส 4 ของปี 2573 สะท้อนให้เห็นผลกระทบอันน่ากลัวจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ต่อตลาดแรงงานสหรัฐตลอดทศวรรษหน้า
ติดเชื้อมากสุดในโลก
ปัจจุบันสหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากสุดในโลก รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับถึงเมื่อวานนี้ (7 ก.ค. 63) ตามเวลาท้องถิ่นเพิ่มขึ้นถึง 55,442 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด วันนี้ (8 ก.ค. 63) อยู่ที่ 3,097,084 คน ขณะที่ยอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 133,972 ราย เพิ่มขึ้น 993 คน
ยอดติดเชื้อในระดับสูงนี้ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมต่างๆ และ เศรษฐกิจสหรัฐ
โดยนครนิวยอร์ก อดีตศูนย์กลางการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ได้เข้าสู่ระยะที่ 3 ของการเปิดเมืองแล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้มีการรับประทานอาหารในที่ร่ม ขณะที่บริการดูแลส่วนตัว อาทิ ร้านทำเล็บ และร้านนวด ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง หลังจากปิดทำการนานเกือบ 4 เดือน
ประกาศถอนตัว WHO
แม้สหรัฐจะมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก แต่เมื่อวานนี้ สหรัฐได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) แจ้งเรื่องการลาออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการ เริ่มต้นขั้นตอนการถอนตัวจากองค์กรระดับโลก ท่ามกลางภาวะระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และคณะบริหารของเขากล่าวหา WHO ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และขู่ตัดความสัมพันธ์กับองค์กรหลายต่อหลายครั้ง โดยทรัมป์ประกาศในช่วงกลางเดือนเมษายน 2563 ว่า รัฐบาลของเขาจะหยุดการให้เงินสนับสนุนแก่ WHO
ทั้งนี้ เว็บไซต์ WHO รายงานว่า สหรัฐจะสิ้นสุดสถานภาพสมาชิกของ WHO ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 และปัจจุบันสหรัฐ ยังค้างชำระเงินตามพันธสัญญา ให้แก่องค์การมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6.2 พันล้านบาท
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พาวเวล-มนูชิน’ ให้คำมั่น ร่วมมือ ‘พยุงเศรษฐกิจสหรัฐ’ พ้นวิกฤติ ‘โควิด-19’
- ‘เฟด’ เตือนประชาชนอย่า ‘เดิมพัน’ กับเศรษฐกิจสหรัฐ
- ‘สหรัฐ’ แจ้งถอนตัวจาก WHO อย่างเป็นทางการ มีผล 6 ก.ค. ปีหน้า