Sme

แบรนด์ไทยใช้ LINE OA ทะยาน 4 ล้านบัญชี เผยกลยุทธ์เติบโตยุค New Normal

กลยุทธ์เติบโตแบรนด์ไทย ยุค New Normal ไลน์ แนะสร้างประสบการณ์ใหม่ครบลูปดึงผู้บริโภคโลกออนไลน์ เผยผู้ใช้ LINE OA พุ่งกว่า 4 ล้านบัญชี

นางสาวศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์เติบโตแบรนด์ไทย ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญแบบ “Growth Strategy” เพื่อเดินหน้าสู่ก้าวต่อไป ในการทำธุรกิจออนไลน์อย่างยั่งยืน แม้จะผ่านพ้นช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่สิ้นสุดลง ดังนี้

กลยุทธ์เติบโตแบรนด์ไทย

  • สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ (Creativity makes ‘Brand Love’)

ความคิดสร้างสรรค์ คือ กุญแจสำคัญ ที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างความแตกต่างในโลกออนไลน์ ด้วยการสร้างเรื่องราว และรูปแบบการเล่าเรื่องของสินค้า หรือตัวแบรนด์ให้โดดเด่น สร้างสรรค์ ไม่ซ้ำใคร พยายามสร้างการสื่อสารตัวตนของแบรนด์ สินค้าด้วยรูปแบบใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์กว่าเดิม ผ่านเครื่องมือใหม่ๆ จาก LINE เพื่อการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ อาทิ Sponsored Sticker, การพาร์ทเนอร์กับ LINE Melody, LINE SHOPPING หรือ LINE MAN

  • วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย (User Segmentation & Personalization)

พฤติกรรมของผู้บริโภคบนโลกดิจิทัล เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเสมอ การสื่อสาร 1 ข้อความสู่ลูกค้าทั้งหมด (1 to many users) ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ส่งผลให้แบรนด์ต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม โดยแบรนด์จำเป็นต้อง

Slide07

– เก็บข้อมูลและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค “แต่ละคน แต่ละกลุ่ม” (Segmentation) ให้มากขึ้น

– ไม่วิ่งตามเทรนด์ สร้างเทรนด์ให้ผู้บริโภค “แต่ละคน แต่ละกลุ่ม” (Set trend to each segmentation) โดยอาจจับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อน แล้วจึงต่อยอดขยายสู่กลุ่มอื่น

– สื่อสารสู่ผู้บริโภค “แต่ละคน แต่ละกลุ่ม” ให้แตกต่างกัน เพื่อดึงดูดให้เกิดการมีส่วนร่วม นำไปสู่การปิดการขายที่เหมาะสม กับคนแต่ละกลุ่ม (Personalization)

  • สร้างประสบการณ์ใหม่บนโซเชียลคอมเมิร์ซ (New experience on Social Commerce)
K. Srisupark 1 RE
ศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล

การปรับตัวของแบรนด์ใหญ่ บนโซเชียลคอมเมิร์ซไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ การสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ บนโซเชียลคอมเมิร์ซ ให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจ แบรนด์ที่ปรับตัว และริเริ่มก่อน จะได้รับความสนใจและมีตัวตนบนโลกดิจิทัลในฐานะของ “ผู้บุกเบิก” หรือ “ผู้ปฏิวัติวงการ”

ปัจจุบันไม่เพียงแค่ผู้ค้ารายย่อยหรือ เอสเอ็มอี เท่านั้น ที่เลือกใช้ LIVE ในการขายของ เพราะแบรนด์ใหญ่ ก็เริ่มหันมาใช้ LIVE เพื่อปิดการขาย (Conversion) หรือ สร้างประสบการณ์สินค้าในรูปแบบใหม่ ต่างจากเดิมที่ใช้ LIVE เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) เท่านั้น

ตัวอย่างแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ LIVE บน LINE OA เป็นเครื่องมือและประสบความสำเร็จ เช่น Homepro ใช้ LIVE เป็นช่องทางช่วยปิดการขาย ตลอดจนปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าที่นำเสนอ หรือ Big C ที่ยกระดับการทำคอนเทนต์ใน LIVE บน LINE OA โดยคัดเลือกสินค้าที่คาดว่าเป็นที่ต้องการระหว่างช่วงล็อกดาวน์มานำเสนอใน LIVE

อีกฟีเจอร์ใหม่ของไลน์ คือ Mission Sticker ซึ่งการเพิ่มเงื่อนไขให้ผู้บริโภคทำตาม เพื่อรับสติกเกอร์ไปใช้ฟรี เป็นการสร้างประสบการณ์สินค้า หรือแบรนด์ในรูปแบบของคาแรคเตอร์ ที่บ่งบอกตัวตน ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ได้อย่างโดดเด่น แตกต่างจากเดิม

Slide02

ตัวอย่างเช่น แบรนด์ LION ได้ออกแบบเงื่อนไข ในการรับสติกเกอร์ด้วยการให้ผู้บริโภคตอบแบบสอบถาม นำมาสู่ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ที่แบรนด์สามารถนำไปต่อยอดเพื่อวิเคราะห์การสื่อสารและแคมเปญการตลาดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว เพิ่มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และช่องทางออนไลน์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้จำนวนของธุรกิจบน LINE Official Account (LINE OA) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมียอดธุรกิจไทยที่ใช้งาน LINE OA แล้วเกิน 4 ล้านบัญชี

สำหรับ 3 กลุ่มธุรกิจที่มีการสื่อสารผ่าน LINE OA สูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี คือ กลุ่มค้าปลีก การเงินการธนาคาร และโทรคมนาคม แต่หากดูเฉพาะช่วงล็อกดาวน์จะพบว่ากลุ่มธุรกิจยานยนต์ องค์กรภาครัฐ ตามมาด้วยธุรกิจค้าปลีกกับ อาหารและเครื่องดื่ม คือ 4 กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตของการสื่อสารผ่าน LINE OA เพิ่มขึ้นมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังพบว่า การใช้ LINE บน Desktop เติบโตมากขึ้นถึง 264% ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา LINE จึงสร้างพื้นที่โฆษณาที่เรียกว่า “Smart Channel” บน Desktop เพื่อรองรับการเติบโตที่เกิดขึ้น ซึ่งมีแบรนด์ใหญ่ อาทิ นิสสัน ให้ความสนใจ และเลือกลงโฆษณาผ่านช่องทางใหม่นี้

“พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ช่วงล็อกดาวน์ เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งนัก แต่เมื่อผู้บริโภคคุ้นเคย กับความปกติใหม่หรือ New Normal แล้ว ก็ยากที่จะกลับไปเป็นแบบเดิมอีก แบรนด์ที่กล้าเปลี่ยนและเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ จะมีเวลาปรับตัว และได้เปรียบกว่า แบรนด์ที่ยังจำกัดตัวเองในช่องทางเดิม”นางสาวศรีสุภาคย์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo