รับสร้างบ้าน ในยุค Customer Centric “วรวุฒิ กาญจนกูล” แนะสมาชิกปรับตัวภายใต้สภาวะ New Normal เน้นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้ได้ทุกคน ทุกระดับ
“ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ยังคงใช้ได้กับทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงธุรกิจ รับสร้างบ้าน ในยุค Customer Centric ทำให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านจะต้องเข้าใจเหตุผลถึงความต้องการ อย่างแท้จริง และลงลึกในรายละเอียดสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน” นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายก สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) กล่าว
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ที่กระทบสะเทือนไปทั้งระบบเศรษฐกิจ รวมถึงธุรกิจรับสร้างบ้าน แม้ว่า สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวก โดยคาดว่า จะมีการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยอมรับว่า ธุรกิจโดยรวม ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโควิด-19 นำมาซึ่ง “New Normal” ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดต่างๆ มากมาย ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน จำเป็นต้องปรับ รูปแบบการตลาดใหม่ โดยจับทางความต้องการของผู้บริโภค หรือต้องมีความเข้าใจ ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ จากการที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค ผ่านเว็บไซต์ของสมาคมฯ รวมถึงข้อมูลที่ได้ จากการเข้าเยี่ยมชมงานรับสร้างบ้านออนไลน์ 2020 ระหว่างวันที่ 20 – 31 มีนาคม 2563 พบว่า มี 4 อันดับแรกหลัก ๆ ที่ผู้บริโภคค้นหา ซึ่งผู้ประกอบการ จะต้องเตรียมความพร้อมรองรับ ดังนี้
- อันดับแรก แบบบ้าน
จากการรวบรวมข้อมูลผู้บริโภค พบว่า แบบบ้านจะต้องมีความหลากหลาย และแบบบ้านที่มี ต้องสอดรับกับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของคน ในสังคมยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือ New normal รวมถึง ชีวิตวิถีใหม่ สังคมที่ไร้การสัมผัส (Touchless Society), การใส่ใจถึงสุขอนามัย และการประหยัดพลังงานภายในบ้าน
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านี้ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องเกาะติด และเตรียมพร้อมเพิ่มทางเลือก ให้กับผู้บริโภคในตลาด
- อันดับสอง ผลงานของบริษัท
ผลงานของบริษัท ย่อมสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า บริษัทมีความน่าเชื่อถือในด้าน “คุณภาพ” และ “มาตรฐาน” เพราะงานด้านการก่อสร้างเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน พยายามผลักดันให้สมาชิกสมาคมฯ มีความรู้ และได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 เวอร์ชั่นใหม่ อีกทั้งยังจัดโครงการสัมมนา “Home Builder Expert” หรือ HBEX เพื่อยกระดับการพัฒนาบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อให้มีคุณภาพ และมาตรฐาน สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- อันดับสาม การบริการ
ความหมายของการบริการ ต้องมุ่งเน้นตั้งแต่เริ่มต้น จนการก่อสร้างเสร็จแบบครบวงจร รวมถึงการดูแลหลังการขาย ด้วยการรับประกันต่าง ๆ เช่น บางบริษัทฯ รับประกันงานโครงสร้างนาน 5-10 ปี เพื่อให้ผู้บริโภคอุ่นใจ
- อันดับสี่ เวลา
เนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านทั่วไป มักก่อสร้างล่าช้า บริษัทรับสร้างบ้าน จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากเมื่อลูกค้าว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน ปลูกสร้างบ้านแล้ว จะต้องได้บ้านตรงตามเวลาที่สัญญาไว้
ด้านภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คาดว่าน่าจะหดตัวไม่น้อยกว่า 20-30% เนื่องจากได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 โดยเฉพาะในช่วง ไตรมาสแรกของปี 2563 ทำให้หยุดการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ และจากมาตรการปิดเมือง (Lockdown)
แต่นับจากนี้ไป หากไม่มีการระบาดรอบสอง หลังจากการคลายล็อก รวมถึงรัฐบาลได้ประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาท จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และหนุนทุกภาคธุรกิจ ให้มีแรงขับเคลื่อนต่อไป
ทั้งนี้ แม้ธุรกิจรับสร้างบ้านจะไม่ได้รับประโยชน์โดยตรง แต่เมื่อบรรยากาศโดยรวมดีขึ้น ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ กล้าที่จะกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้กลับมาสู่ภาวะปกติได้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่โอกาสของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน จะอยู่ที่การว่าจ้างปลูกสร้างบ้านใหม่ ทั้งบนที่ดินใหม่ หรือบนที่ดินเดิม ด้วยการรื้อบ้านหลังเก่า ที่มีอายุการใช้งาน มากกว่า 30 – 40 ปีแล้วสร้างใหม่ รวมทั้งตลาดรีโนเวทบ้านเก่า เพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น สอดคล้องกับการใช้ ชีวิตแบบใหม่ หรือ “New Normal” ทั้งการทำงานที่บ้าน (Work From Home) รวมถึงเรียนออนไลน์ ที่ต้องการ พื้นที่เพิ่มเติมเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมา มีสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ปรับตัวเข้าไปรับงานรีโนเวทบ้านมากขึ้น
ส่วนการแข่งขันของตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ยอมรับว่า ตลาดมีการแข่งขันกันค่อนข้างมาก ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้การแข่งขันของธุรกิจที่รุนแรงนั้น สิ่งสำคัญที่บริษัทรับสร้างบ้าน จะต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปก็คือ การบริหารต้นทุน ว่ามีส่วนใด “รั่วไหล” หรือไม่
ขณะเดียวกัน เนื่องจาก ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามามีบทบาททางด้านการตลาด การทำตลาด และการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ จึงมีความ สำคัญ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการขยายสาขาเพิ่มแล้ว ยังทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น
ดังนั้น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จึงได้ปรับตัว ผ่านรูปแบบการจัดงาน ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อ ตอบรับกับกระแสของกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 ช่องทาง โดยกำหนดจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2020 แบบออฟไลน์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 4 ตุลาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 8 ส่วน Online Exhibition จะหารือกับคณะกรรมการอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘รับสร้างบ้าน’ ปรับกลยุทธ์ จัดงานแสดงสินค้าออนไลน์หนีภัย ‘โควิด-19’
- ดึงกว่า 30 บริษัทรับสร้างบ้าน จัดงาน ‘Focus 2020’ กระตุ้นกำลังซื้อ
- เผยวิชั่นนายกสมาคมรับสร้างบ้านคนใหม่ ‘เสริมสร้าง-พัฒนา-ยั่งยืน’
