DAAT อัพเดทโฆษณาดิจิทัล ปีนี้มูลค่า 1.5 หมื่นล้าน โต 21% “เฟซบุ๊ก-ยูทูบ” แพลตฟอร์มหลักครองเม็ดเงิน 50% ชี้โอกาสโฆษณาดิจิทัล 4 หมื่นล้าน
วันนี้ (30 ส.ค.) สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT จัดงานสัมมนาการตลาดและการสื่อสารดิจิทัล “DAAT DAY 2018” นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและนวัตกรรมดิจิทัล สำหรับนักการตลาด พร้อมอัพเดทข้อมูลตัวเลขงบโฆษณาดิจิทัล ปี 2561
นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวว่างาน DAAT DAY จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากการทำงานร่วมกันของสมาชิกและพันธมิตรสื่อดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศกว่า 50 ราย ปีนี้มีผู้แสดงความสนใจเข้าร่วมงานกว่า2,500 คน
โอกาสโฆษณาดิจิทัล 4 หมื่นล้าน
ไฮไลท์งาน DAAT DAY 2018 คือการแถลงมูลค่างบโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของประเทศไทยที่สมาคม ร่วมกับบริษัท กันตาร์ ทีเอ็นเอส (ประเทศไทย) จัดทำโดยคาดการณ์มูลค่าการลงทุนในสื่อดิจิทัลปี 2561 มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับปี 2560
มูลค่าดังกล่าวถือว่ายังต่ำกว่าตลาดโฆษณาดิจิทัลในต่างประเทศ ที่มีสัดส่วนประมาณ 40% ของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ขณะที่ประเทศไทยสัดส่วนอยู่ที่ 15% ของมูลค่าอุตสาหกรรมโฆษณา “แสนล้านบาท”หากสัดส่วนเป็นไปตามต่างประเทศ มูลค่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ดังนั้นโฆษณาดิจิทัลไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
“เชื่อว่าแนวโน้มสื่อดิจิทัลปีนี้ไปจนถึงปีหน้ายังคงสามารถทำลายเพดานสถิติต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง จากศักยภาพของสื่อรวมไปถึงความเชื่อมั่นจากนักการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ที่ให้ความสนใจกับสื่อดิจิทัลมากกว่าสื่อหลัก” นายศิวัตร กล่าว
โฆษณาดิจิทัลปีนี้ 1.5 หมื่นล้าน
กันตาร์ ทีเอ็นเอส รายงานการใช้งบโฆษณาดิจิทัล ครึ่งปีแรก 2561 มีมูลค่า 6,684 ล้านบาท คาดครึ่งปีหลังจะมีมูลค่า8,289 ล้านบาท โดยคาดการณ์มูลค่าโฆษณาดิจิทัล ปี 2561 อยู่ที่ 1.49 หมื่นล้านบาท เติบโต 21%
นางสาวพัชรี เพิ่มวงศ์อัศวะ และนายราชศักดิ์ อัศวศุภชัย กรรมการสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวว่าช่วงต้นปีนี้ ประเมินอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล ปี 2561 มีมูลค่า 1.43 ล้านบาท เติบโต 16% แต่หลังจากผ่านไปครึ่งปีมีแนวโน้มสูงกว่าคาดการณ์ดังนั้นจึงปรับประมาณการใหม่ เติบโต 21% ในปีนี้
“ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สมาคมประเมินอุตสาหกรรมเติบโต 18% แต่สิ้นปีเติบโต 31% มูลค่าอยู่ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท สิ้นปีนี้มีโอกาสที่อุตสาหกรรมโฆษณาจะขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ได้เช่นกัน”
การใช้งบโฆษณาดิจิทัลยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2554 เพราะเป็นสื่อที่ใช้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์สินค้าและแบรนด์ไม่ต่างจากสื่อหลัก ทั้งสร้างการรับรู้ในวงกว้าง กระทั่งผลักดันยอดขาย รวมทั้งเข้าถึง“แมส โปรดักท์” ทำให้ทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญและใช้งบประมาณในสื่อดิจิทัลเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
“เฟซบุ๊ก-ยูทูบ”แชมป์โกยงบดิจิทัล
โดยสมาคมคาดการณ์รายสื่อ ปี 2561 ประกอบด้วย เฟซบุ๊ก 4,479 ล้านบาท , ยูทูบ 2,690 ล้านบาท, เสิร์ช 1,424 ล้านบาท, งานครีเอทีฟ 1,340 ล้านบาท, โซเชียล 1,179 ล้านบาท, ไลน์ 1,147 ล้านบาท, ออนไลน์ วิดีโอ 791 ล้านบาท , เนทีฟแอด 132 ล้านบาท และอื่นๆ 1,517 ล้านบาท
นางสาวพัชรี กล่าวว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครองงบโฆษณาสูงสุด ปีนี้ยังคงเป็น เฟซบุ๊กและยูทูบ ที่มีสัดส่วนเม็ดเงินประมาณ 50% ของงบประมาณทั้งหมด โดยเฟซบุ๊ก เติบโต 10% จากปีก่อน และยูทูบ เติบโต 23% แม้เปอร์เซ็นต์การเติบโตไม่สูง แต่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของทั้ง 2 แพลตฟอร์มยังมีอัตราสูง คือ แพลตฟอร์มและ 400-500 ล้านบาท ขณะที่ “ไลน์” เพิ่มขึ้นสูงสุด ที่ 600ล้านบาท จากมูลค่า 627 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 1,147 ล้านบาทในปีนี้ หรือ เติบโต 83%
นายราชศักดิ์ กล่าวว่าจากเติบโตของ เฟซบุ๊ก และ ไลน์ มาจากจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันประชากรไทย 69 ล้านคน มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก 3 ใน 4 ของประชากร หรือ 52 ล้านคน เช่นเดียวกับไลน์ ที่มีผู้ใช้งาน 42 ล้านคน โดยทั้ง 2 แพลตฟอร์ม มีการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเครื่องมือใช้งานสำหรับนักการตลาด สินค้า และแบรนด์ต่างๆ
ปัจจุบันคนไทยใช้อินเทอร์เน็ต 80% ของสัดส่วนประชากร ข้อมูลของยูทูบ ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีเส้นแบ่งของพื้นที่เมืองและชนบทในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ปัจจัยดังกล่าวทำให้ ยูทูบ ซึ่งเป็นวิดีโอ แพลตฟอร์ม ได้รับความนิยมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น พบว่าคอนเทนท์ยอดนิยมที่มียอดวิวสูงสุด 6 ใน 10 เป็นเพลงลูกทุ่ง นั่นเท่ากับกว่า ยูทูบ เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ทำให้เม็ดเงินโฆษณาเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2560 อยู่ที่ 2,106 ล้านบาท ปีนี้ คาดการณ์ 2,690 ล้านบาท เติบโต 83%
กลุ่มสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ใช้งบประมาณโฆษณาดิจิทัลสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มการสื่อสาร กลุ่มสินค้าดูแลผิว กลุ่มธุรกิจธนาคาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์เดลี่โปรดักท์
ท็อป 3 ธุรกิจอัดงบโฆษณาดิจิทัลสูงสุด ‘รถยนต์-สื่อสาร-สกินแคร์’