หุ้นการบินไทย กับ 3 เรื่องที่ต้องจับตาของนับจากนี้ ภายใต้การฟื้นฟูกิจการ หนีไม่พ้นแปลงหนี้สินเป็นทุน เตือนถึงเวลาไม่ส่งงบ มีโอกาสถูกขึ้นเครื่องมาย SP
หุ้นการบินไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (THAI ) ยังมีประเด็นให้ตามต่อ อีกหลายเรื่อง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้คำสั่งศาลล้มละลาย
อย่างไรก็ดี นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่การบินไทย เพราะระยะทางฟื้นฟูกิจการนั้น กินระยะเวลาอีกหลายปี ซึ่งตามไทม์ไลน์จะมีทั้งสิ้น 10 ขั้นตอน ได้แก่
1. ครม. อนุมัติ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู 2. การบินไทยยื่นคำร้องขอฟื้นฟู 3. ยื่นคำร้องต่อศาล 4. ส่งหมายให้เจ้าหนี้ เจรจาเจ้าหนี้ทั้งหมด 5. ประชุมเจ้าหนี้ 6. ศาลตั้งผู้จัดทำแผน เข้าควบคุมกิจการ 7. เสนอแผนฟื้นฟู 8. ประชุมเจ้าหนี้ เพื่ออนุมัติแผนฟื้นฟู 9. ศาลพิจารณาเห็นชอบ 10. ดำเนินการตามแผนฟื้นฟู
ทั้งนี้ ล่าสุด (8 มิ.ย.) ได้มีการเปิดเผยในการประชุมผู้ถือหุ้นการบินไทย ว่า ปัจจุบันศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ทำให้การบินไทยอยู่ภายใต้สภาวะบังคับชั่วคราว (Automatic Stay) และภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 จะเป็นวันสุดท้ายที่เจ้าหนี้จะสามารถยื่นคำคัดค้านฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งตามกรอบระยะเวลาทั้งหมดแล้วจะกินเวลายาวถึง 7 ปี
คำถาม คือ ระหว่างนี้การซื้อขาย หุ้นการบินไทย ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอย่างไร เพราะโดยทั่วไปแล้วถึงแม้บริษัทจะเข้าสู่กระบวนการเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการแล้ว ก็ยังสามารถซื้อขายกันต่อได้อยู่ ดังนั้นเราจะพามาดูกันว่า มีประเด็นอะไรบ้าง ที่ต้องติดตาม และจับตามองต่อไปเกี่ยวกับหุ้นการบินไทย
ราคาหุ้นดีดขึ้นเป็นเท่าตัว?
ในช่วงแรกที่มีข่าวฟื้นฟูกิจการ ราคาหุ้นการบินไทยดีดขึ้นจาก 4 บาทไปเป็น 6 บาท ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ราคาหุ้นพุ่งก็เนื่องมาจากที่ตลาด เห็นว่าเมื่อราคาหุ้นต่ำขนาดนี้ ก็แปลว่ามีโอกาสที่จะเข้ามาช้อนซื้อเพื่อทำกำไร เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น กรณีของหุ้น Hertz ที่หุ้นดีดขึ้นมา 5 เท่า หรือ Whiting Petroleum ที่หุ้นดีดขึ้นมา 4 เท่า
แต่เรื่องนี้ก็มีข้อควรระวัง เพราะแม้จะเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ แต่ก็มีโอกาสที่บริษัทจะไม่สามารถ กลับมาชำระหนี้ได้ ซึ่งก็อาจมีการขายสินทรัพย์มาจ่ายเจ้าหนี้ จนมูลค่าบริษัทเป็นศูนย์ได้ เพราะฉะนั้นหากคิดจะเข้ามาช้อนหุ้นการบินไทยในช่วงนี้ คงต้องพิจารณาดีๆ ว่าอนาคตที่บริษัทจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างสดใส นั้นเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
แปลงหนี้เป็นทุน ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม
ปัญหาใหญ่ของการบินไทยตอนนี้ คือสินทรัพย์เกือบทั้งหมดของบริษัทมาจากการก่อหนี้ โดยมีสินทรัพย์ 2.57 แสนล้านบาท มาจากหนี้สิน 2.45 แสนล้านบาท และเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 0.12 แสนล้านบาท ทำให้ ณ ตอนนี้การบินไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) สูงถึง 21 เท่า ถ้าจะทำให้การบินไทยสามารถกลับมาแข่งขัน และทำธุรกิจได้ปกติ อันดับแรก ก็ต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ หนึ่งในเทคนิคที่เป็นไปได้มาก คงหนีไม่พ้นการ “แปลงหนี้สินเป็นทุน” ซึ่งจะทำให้เจ้าหนี้ กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นการบินไทยทันที
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา ก็คือสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมจะถูกลดสัดส่วนลง ซึ่งจะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับจำนวนหนี้สินที่บริษัทนำมาแปลงสภาพนั่นเอง
หุ้นการบินไทย โอกาสหุ้นถูกแขวนเครื่องมาย SP
ปัจจุบันหุ้นการบินไทยถูกแขวนเครื่อง C (Caution) ซึ่งนักลงทุนจะต้องซื้อขายด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การบินไทยมีการขอผ่อนผัน การส่งงบการเงินไตรมาสแรกปี 2563 ออกไปถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 แปลว่าหากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทยังไม่ส่งงบ ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงกรณีอื่นๆ ที่หุ้นจะโดนหยุดพักการซื้อขายอีก อาทิ งบการเงินไม่ถูกต้อง, งบสิ้นปี 63 มีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ เป็นต้น
สุดท้ายนี้ ใครที่คิดจะเข้ามาลงทุนหุ้นการบินไทยในเวลานี้ คงต้องพิจารณาดีๆ ถึงความเสี่ยงต่างๆ เพราะการปรับโครงสร้างกิจการ ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าบริษัทจะกลับมามีกำไร และสร้างผลการดำเนินงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของลูกค้าก่อนหน้านี้ การบินไทย ได้ชี้แจงกระบวนการ ยื่นขอรับชำระหนี้ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร โดยระบุว่า ตามที่มีข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความเห็นว่า แม้ว่าการบินไทยจะรับรองสิทธิ ของเจ้าหนี้ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร ในแผนฟื้นฟูกิจการไว้
แต่หากเจ้าหนี้ที่มีหนี้ข้างมาก ไม่เห็นชอบกับ แผนฟื้นฟูกิจการ ในหนี้ของเจ้าหนี้ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร และ ขอให้แก้ไขแผนโดยตัดหนี้ หรือ ลดหนี้ของเจ้าหนี้กลุ่มนี้ โดยที่เจ้าหนี้กลุ่มนี้ ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ จะทำให้เจ้าหนี้ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสารหมดสิทธิ ได้รับเงินค่าบัตรโดยสารคืนนั้น
การบินไทย ขอชี้แจงว่า กระบวนการยื่นขอรับชำระหนี้นั้น จะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้น หลังจากการไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2563 และ ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และตั้งผู้ทำแผนแล้ว ซึ่งจะมีการประกาศแจ้งให้ท่านทราบต่อไป
โดยในชั้นไต่สวนคำร้องนี้ ศาลจะพิจารณาเพียงว่า สมควรให้การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่เท่านั้น ดังนั้น ในขั้นตอนดังกล่าว ท่านไม่มีความจำเป็นต้องไปศาล เพื่อแสดงตัวว่า เป็นเจ้าหนี้ หรือ ดำเนินการใดๆ เว้นเสียแต่ว่า ท่านประสงค์ที่จะยื่นคัดค้านว่า บริษัทไม่ควรเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงิน ที่บริษัทเผชิญอยู่
สำหรับที่บริษัทได้แจ้งว่า ลูกค้าที่ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร ไม่จำเป็นต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้นั้น สืบเนื่องมาจากความมุ่งมั่น และตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะดูแลสิทธิของลูกค้า ที่ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสารทุกท่านอย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการว่า จ้างทนายความ เพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ โดยบริษัท มีนโยบายที่จะรับรองสิทธิของลูกค้า ที่ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร ไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ตามกฎหมาย แผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว จะต้องได้รับความเห็นชอบโดยเจ้าหนี้ ที่มีจำนวนหนี้รวมกันไม่น้อยกว่า 50% ของภาระหนี้ทั้งหมดของบริษัท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘การบินไทย’ ยืนยันจะดูแลลูกค้าที่ขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารให้ดีที่สุด!
- ‘การบินไทย’ ชี้แจงคู่ค้า ยังพร้อมให้บริการภาคพื้นในสนามบินสุวรรณภูมิ
- จะไหวมั้ย!! เสียงจากห้องประชุมบอร์ดการบินไทย
