แถลงการณ์จาก อังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) ระบุว่า อุทยานโบราณคดีอังกอร์ หรือ นครวัด สถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของกัมพูชา ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 387,840 คน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ซึ่งลดลงถึง 69% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
อังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ เปิดเผยว่า อุทยานโบราณคดีแห่งนี้ สร้างรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมรวม 18.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 560 ล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งลดลง 67% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เฉพาะเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา นครวัดรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,747 คน และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมรวม 71,214 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 ล้านบาทบาท ลดลงมากถึง 98.6% และ 98.7% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า
อุทยานโบราณคดีอังกอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี 1992 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ
สำหรับอัตราการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เยือนอุทยานโบราณคดีอังกอร์ เป็นผลจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งทำให้กัมพูชาต้องห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อควบคุมโรคระบาด
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา รายงานการตรวจพบ ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 141 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ และยังไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต โดยปัจจุบันยังเหลือผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 10 ราย
ที่มา : xinhuathai
