Digital Economy

ส่องอีโคซิสเต็มส์ ‘YouTube’ ผ่านงาน FanFest ไทย-เทศต่างกันจริงหรือ

มุกพิม อนันตชัย
มุกพิม อนันตชัย

ต้องยอมรับว่า YouTube เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยเฉพาะในส่วนของครีเอเตอร์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่ในปัจจุบันมีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดจับมือเอไอเอสจัดงาน YouTube FanFest ดึงครีเอเตอร์ไทย – เทศร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ 

มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจบันเทิง YouTube ประเทศไทย กล่าวถึงการเติบโตของชุมชนยูทูบในประเทศไทยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาว่า ชุมชมผู้ใช้ YouTube ของไทยนั้นเติบโตเร็วที่สุดในโลก เฉพาะในรอบปีที่ผ่านมา จำนวนคอนเทนต์ที่ถูกอัปโหลดขึ้นบนยูทูบมีมากกว่า 70% ในแง่ของการเข้าถึง

ผลวิจัยของ TNS พบว่า YouTube เข้าถึงผู้ใช้งานในเขตเมือง ได้ถึง 93% แต่ถ้าเป็นนอกเขตเมือง สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ 92% โดยในจำนวนนี้ 75% เข้าใช้งาน YouTube ทุกวัน

นอกจากนั้น ประเทศไทยมีช่องบน YouTube ที่ได้รับรางวัล Silver Creator Award (ช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน) มากกว่า 1,700 ช่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าใน 1 ปีที่ผ่านมา อีททั้งยังมีช่องที่ได้รับรางวัล Gold Creator Award (ช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน) มากกว่า 160 ช่อง (มากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และมีช่องที่ได้รับรางวัล Diamond Creator Award (ช่องที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน) จำนวน 5 ช่อง มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 3 ของเอเชียแปซิฟิก รองจากอินเดีย และเกาหลีใต้

สำหรับตัวเลขในระดับโลก YouTube มีผู้ใช้งานล็อกอินเข้ามาในระบบ 1.9 พันล้านคนต่อเดือน ในแต่ละวันมีการรับชมคอนเทนต์มากกว่า 1 พันล้านชั่วโมง

ศิลปินบางส่วนที่จะร่วมขึ้นเวที YouTube FanFest
ศิลปินบางส่วนที่จะร่วมขึ้นเวที YouTube FanFest

ในส่วนของงาน YouTube FanFest ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 นี้ นางสาวมุกพิมเผยว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อฉลองให้กับการเติบโตของบรรดาครีเอเตอร์ พร้อมยกตัวอย่างครีเอเตอร์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดอย่างบี้ เดอะสกา ปัจจุบันมียอดผู้ติดตาม 7.4 ล้านคน และมียอดเข้าชมกว่า 2.27 พันล้านครั้ง ก็จะเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

“YouTube ต้องการเป็นโอเพ่นแพลตฟอร์มสำหรับครีเอเตอร์ และจะไม่ชี้นำ หรือกำหนดว่าครีเอเตอร์ควรผลิต หรือไม่ควรผลิตคอนเทนต์ชนิดใด เนื่องจากอยากให้การพัฒนาคอนเทนต์เกิดจาก Passion ของครีเอเตอร์แต่ละคนให้มากที่สุด เช่น Point of View ซึ่งเป็นแชนแนลที่เกิดจากความชอบด้านวรรณกรรม”

ในส่วนของการสนับสนุนครีเอเตอร์นั้น YouTube เผยว่ามีโปรแกรมสนับสนุนเช่นกัน แต่จะต้องเป็นครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 100,000 คนขึ้นไปเสียก่อน หรือหากเป็นแชนแนล การจะทำรายได้บนยูทูบนั้น จะต้องมีชั่วโมงการรับชม 4,000 ชั่วโมงขึ้นไป และมีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไปเสียก่อนเช่นกัน

เปิดความสำเร็จครีเอเตอร์ไทย-เทศ 

สำหรับการจัดงาน YouTube FanFest ในปีนี้ นอกจากครีเอเตอร์ของไทยแล้ว ยังมีครีเอเตอร์จากหลายประเทศเข้าร่วม เช่น Pinkfong เจ้าของเพลง BabyShark อันโด่งดัง ซึ่งเคล็ดลับของทีมผู้พัฒนา Pinkfong ที่แบ่งปันให้เราได้ทราบกันนั้นส่วนหนึ่งเป็นการเรียนรู้จากดาต้าเบื้องหลัง โดยทางทีมได้เคยพัฒนาคอนเทนต์หลายประเภท ก่อนจะพบว่า คอนเทนต์ประเภทเพลงสำหรับเด็กคือสิ่งที่ผู้ชมบนโลกออนไลน์ให้ความสนใจ ทางทีมจึงตัดสินใจพัฒนาเพลง Baby Shark ออกมา และโด่งดังไปทั่วโลกในที่สุด

ปัจจุบัน Pinkfong ยังมีการเปิดแชนแนลในระดับ Local ด้วยซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ทางค่ายตัดสินใจเปิดแชนแนล เนื่องจากพบว่า การเข้าถึงคอนเทนต์ของ Pinkfong นั้น สถิติจากประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 ซึ่งถือว่ามาแรงมากเช่นกัน

โดยเคล็ดลับที่ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์ม YouTube และมีผู้ติดตามมากกว่า  1 ล้านรายขึ้นไปกล่าวเป็นเสียงเดียวกันก็คือ การจะเติบโตบนแพลตฟอร์มเช่น YouTube นั้น ต้องเกิดจาก Passion นั่นคือมีความสนใจในคอนเทนต์ประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นทุนเดิม จากนั้น ต้องมีวินัยในการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ และประการสุดท้ายคือต้องมีความจริงใจ เป็นตัวของตัวเองในการนำเสนอคอนเทนต์ 

สำหรับงาน YouTube FanFest ในปีนี้ มีศิลปินไทยที่จะเข้าร่วมได้แก่ บิล บิลลี่ (BillBilly01) บี้ เดอะ สกา (Bie The Ska) ญานนีน ไวเกล (Jannine Weigel) บริค เฮ้าส์ (Brick House) แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (Jazz Spooknick Papiyong Kookkook) ยัง โอม (Young Ohm) ส้ม มารี (ZomMarie) วันเดอร์เฟรม (WONDERFRAME) และบีเอ็นเค48 (BNK48) ส่วนรายชื่อศิลปินต่างประเทศ ได้แก่ เบบี้ ชาร์ค BabyShark แรนซ์ และ นีอาน่า Ranz and Niana ราอน อี Raon Lee  โดยงาน YouTube FanFest  จะมีขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

Avatar photo