เลือกตั้งสิงคโปร์ เกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย หลังเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว “ลี เซียน ลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ด้วยการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ บอกว่า ได้แนะนำให้ประธานาธิบดีฮาลิมาห์ ยาคอบ ยุบสภา และออกคำสั่งเลือกตั้ง
ก่อนที่ในเวลาต่อมา สำนักงานเลือกตั้งสิงคโปร์ จะกำหนดวันเลือกตั้งให้เป็นวันที่ 10 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
แต่อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ ผู้นำสิงคโปร์ ตัดสินใจที่จะจัดการเลือกตั้งขึ้นมา ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังรับมือกับการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19
ระหว่างการแถลงเรื่อง ยุบสภา “ลี เซียน ลุง” ยอมรับว่า เส้นทางการฟื้นตัว หลังการระบาดของโควิด-19 จะเป็นบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเขาคิดว่า เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ในขณะนี้ค่อนข้างจะมีเสถียรภาพ ระยะเวลา 5 ปีเต็มๆ สำหรับการบริหาร จะช่วยให้รัฐบาลชุดใหม่ สามารถพุ่งเป้าไปที่ประเด็นระดับชาติ ด้านการฟื้นตัว และดำเนินการตัดสินในเรื่องยากๆ ได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า เหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง การตัดสินใจ ที่จะให้มีการเลือกตั้งขึ้นมา ในเวลานี้ คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสิ้นสุดลง ก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน จะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ในสิ้นเดือน เมษายน 2564
ทางเลือกที่มีอยู่คือ รอให้การระบาดยุติลง ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถกำหนดวันที่แน่นอนได้ ทำให้ ลี เซียน ลุง เลือกที่จะตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะมีวาระดำรงตำแหน่งใหม่ เพิ่มอีก 5 ปี สำหรับการทำงาน ในด้านการฟื้นฟูประเทศ
นอกจากนี้ การจัดเลือกตั้ง ในช่วงเวลาที่เกิดการระบาด ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ โดยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว อย่าง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และบางประเทศในยุโรป ที่ประสบความสำเร็จ กับการจัดเลือกตั้ง ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นปัจจัยกระตุ้น ให้ผู้นำสิงคโปร์ เดินตามแนวทางเดียวกัน
ดร.ราชาราม ปันดา นักวิชาการจากสถาบันลกซาบาห์ ของอินเดีย มองด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะไม่เหมือนกับ ทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมี 2 ประเด็น ที่เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ ความปลอดภัย ของผู้ออกมาใช้สิทธิ และ การหาเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ ของพรรคการเมืองต่างๆ
เหล่านักวิเคราะห์ยังชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้ผู้มีสิทธิ ลงคะแนนเสียง ตัดสินเกี่ยวกับ แกนนำรุ่นต่อไป ของ “กิจประชาชน” (PAP) พรรครัฐบาลสิงคโปร์ ที่เรียกกันว่า ทีมผู้นำ 4G
สิงคโปร์ ยังเจอกับปัญหาการว่างงาน ที่เพิ่มสูงขึ้น ผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ ปัญหาเรื่องการจ้างงาน และปากท้องประชาชน กลายมาเป็นหัวข้อสำคัญ ที่ต้องนำมาพูดถึงด้วย
ที่ผ่านมา รัฐบาลนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ได้ใช้จ่ายเงินไปแล้ว หลายพันล้านดอลลาร์ เพื่ออุดหนุนเงินเดือน สร้างงาน และฝึกอบรมแรงงาน ซึ่งทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ของสิงคโปร์ ลดลงไปเป็นจำนวนมาก
การเลือกตั้งในช่วงกลาง ของภาวะวิกฤติเช่นนี้ ยังทำให้ ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ เนื่องจากประชาชน ได้จดจำไปแล้ว ถึงความพยายามอย่างหนักของรัฐบาล ในการสกัดกั้น การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19
แม้จะมองเห็นช่องโหว่อยู่บ้าง ในกระบวนการ กำหนดนโยบาย และมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า เลือกตั้งสิงคโปร์ ครั้งนี้ ฝ่ายค้านจะสามารถหาประโยชน์ จากรอยรั่วในส่วนนี้ เพื่อสร้างประโยชน์ ให้กับตัวเอง ได้หรือไม่
กระนั้นก็ตาม ตัวบ่งชี้ต่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่ประเทศ ตกอยู่ท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้ ประชาชนอาจชอบ ที่จะได้เห็นความต่อเนื่อง และอยากได้ทีมงาน ที่มีประสบการณ์ มากกว่าฝ่ายค้าน ที่ยังไม่เคยผ่าน การทดสอบเรื่องแบบนี้มาก่อน
ส่วนเรื่องผู้อพยพ และ การเพิ่มจำนวนประชากร ที่เคยเป็นประเด็นสำคัญ ในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีแนวโน้มว่า จะกลายมาเป็น หัวข้อสำคัญในการตัดสินใจอีกต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สิงคโปร์ยุบสภา! กำหนดเลือกตั้ง 10 ก.ค. ปล่อยรัฐบาลใหม่จัดการโควิด-19 ต่อ
- ‘มูดี้ส์’ ชี้ เศรษฐกิจ ‘ญี่ปุ่น-สิงคโปร์’ เจอผลกระทบ ‘โควิด-19′ หนักสุดเอเชีย’
- สิงคโปร์นำร่องฟื้น ‘ธุรกิจท่องเที่ยว’ 13 แห่ง รับเปิดเศรษฐกิจเฟส 2
