Politics

‘ภิญโญ -ชัยวุฒิ’ แท็กทีมไล่ ‘สมคิด’ ทำไม่ได้ก็ออกไป ไม่ใช่ยุบสภา

“สมคิด” โดนจัดหนัก เสนอยุบสภา “ภิญโญ-ชัยวุฒิ” แท็กทีมโต้  ลั่น ทำไม่ได้ก็ออกไป ยุบสภาไม่ใช่ทางออก บริหารเศรษฐกิจไม่ได้ ไม่เกี่ยวอะไรกับสภา 

จากกรณีที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า “รู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทย ตอนนี้กำลังเจอพายุ คงไม่ใช่แค่ไทยประเทศเดียว ทุกประเทศในโลกกำลังเจอพายุลูกใหญ่ ดังนั้นพายุใหญ่ลูกนี้ถ้าไม่ตั้งรับดีๆ จะเหนื่อยกันหมด อย่างเช่น สิงคโปร์ ต้องยุบสภา เพราะคาดคะเนว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงมาก จึงยุบก่อน เพื่อเลือกตั้งใหม่ จะได้มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ” นั้น

cover สมคิด

นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐ ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หน้าที่ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะต้องเป็นผู้บริหารจัดการให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไป ในทิศทางไหน อย่างไรให้ดีขึ้น ไม่ใช่ว่า ทำไม่ได้ก็เสนอให้ “ยุบสภา”

“ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ผมลงพื้นที่มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง มาจนถึงปัจจุบัน เวลาที่ลงพื้นที่ก็จะโดนประชาชนต่อว่าตลอดว่า เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเมืองและในชนบท” 

โดยเฉพาะในเมืองที่เป็น กลุ่ม SME ขนาดเล็ก บอกว่าเศรษฐกิจแย่มากเลย ตอนนี้ขายของไม่ค่อยได้ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีไม่มีคนซื้อ ไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกทาง ที่จะทำให้เกิดแรงซื้อ ทำให้ธุรกิจ SME ขนาดเล็กเดินต่อไปได้

ส่วนในพื้นที่ชนบทก็เช่นกัน ไปตามร้านค้าขายของเล็กๆในหมู่บ้าน ก็จะโดนต่อว่าว่าขายของไม่ได้เลยเช่นกัน ช่วยบอกทางรัฐบาลทีให้ช่วยกันแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ เพื่อให้ขายของได้ดีขึ้น

นายภิญโญ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) ได้ฟังหัวหน้าทีมเศรษฐกิจชุดนี้ คือ นายสมคิด บอกว่าถ้าเป็นประเทศอื่น เขายุบสภาไปแล้ว  ซึ่งความจริงแล้ว ตนอยากบอกว่า สภากับผู้บริหาร ต้องแยกออกจากกัน ฝ่ายสภามีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล เป็นคนที่เข้าถึงประชาชน ถ้าประชาชนเดือดร้อนอะไร จุดไหน ก็ต้องพูดในสภาเพื่อให้ผู้บริหารนำไปแก้ไข

สมคิด
ภิญโญ นิโรจน์

ถ้าทีมเศรษฐกิจมาบอกว่าให้ “ยุบสภา” ตนอยากจะถามว่าสภาผิดอะไร สภาจะทำหน้าที่ตรวจสอบและแจ้งให้รัฐบาลทราบ ว่าเศรษฐกิจมันไม่ดีอย่างไร แก้ไขอย่างไร เพื่อรับฟังและไปดำเนินการ

“ผมคิดว่าในส่วนนี้อย่าไปโยนให้กับทางสภา สภาก็ทำหน้าที่ขับเคลื่อน รวบรวมข้อมูลในการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจในยามที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้รัฐบาลเดินไปให้ถูกทาง”

อย่างไรก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเรื่องโรคโควิด-19 ได้แล้ว แต่ตอนนี้ ต้องแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ จะแก้ทางไหน สภาเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องช่วยไปบอกความต้องการของประชาชนให้ถูกทาง

“ผมขอถามหน่อยถ้าไปยุบสภา แล้วใครจะไปบอก ว่าเศรษฐกิจมันไม่ดีอย่างไร ควรจะแก้ไขอย่างไร”

ผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ลงไปในพื้นที่ลงไปเก็บข้อมูลต่างๆ มาให้กับทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจ ถ้าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทำไม่ไหวก็เปลี่ยน สภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นผู้ที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อไปแจ้งให้กับทางผู้บริหารโดยผ่านสภาผู้แทนราษฎรให้ทราบ ไม่ใช่มาตอบว่าต้องยุบสภาเป็นการแก้ไขปัญหา ต้องแก้ไขที่ทีมเศรษฐกิจ

ขณะนี้เสียงสนับสนุนรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลก็แก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดีมากๆ ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ต้องยุบสภาในเวลานี้ ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้มีปัญหาทั่วโลกเป็นเรื่องตลกที่บอกว่า “การยุบสภา” เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายภิญโญ กล่าวด้วยว่า ตนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตั้งแต่ปี 2535 มาจนถึงปัจจุบันก็ 7 สมัยด้วยกัน มีคณะรัฐบาลเป็นผู้บริหาร และสภาผู้แทนราษฎร ตนคิดว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะมาพูดเรื่องการยุบสภาผู้แทนราษฎรมันไม่ถูกต้อง สภาไม่ได้เป็นส่วนที่จะไปบริหารประเทศ ไม่ควรจะเอามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ทีมเศรษฐกิจบริหารไม่ได้แล้วมาเสนอยุบสภาอย่างนี้ไม่ถูกต้อง

สมคิด
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

“ชัยวุฒิ” ซัด ” สมคิด ” ตัวปัญหา

ทางด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายสมคิด ยกตัวอย่างเรื่องสิงคโปร์ยุบสภา เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจว่า  การยุบสภาไม่ใช่ทางออก สภาไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทุกวันนี้ปัญหาอยู่ที่การแก้เรื่องเศรษฐกิจ ของทีมเศรษฐกิจเอง ฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด

ส่วนสภาฯ พร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อดูแลประชาชน ยืนยันว่าสมาชิกของพรรคส่วนใหญ่ ก็มีความเห็นเช่นเดียวกับตน เพราะการปรับเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ ของประเทศชาติ ไม่ใช่การแย่งผลประโยชน์กัน หรือมุ่งต่อสู้ทางการเมือง แต่เพื่อหาแนวคิดใหม่ และคนใหม่เข้ามาทำงาน

“การปรับเปลี่ยนเรื่องทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่ใช่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพียงแค่ตำแหน่งเดียว เชื่อว่านายกรัฐมนตรี จะพิจรณาในตำแหน่งอื่นๆ ด้วย เพื่อให้คนเก่ง มีชื่อเสียง มีฝีมือเข้ามาทำงาน พรรคพลังประชารัฐ ก็ยินดีที่จะให้คนนอกที่มีฝีมือเข้ามาทำงาน” 

ส่วนเรื่องที่สังคมวิจารณ์การเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ที่สนับสนุน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมนั้น นายชัยวัฒน์ ระบุว่า การตั้งกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา อาจมีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าทีมเศรษฐกิจ มีนางนฤมลเพียงคนเดียว ความจริงพรรคมีทีมเตรียมไว้ ทั้งคนนอกที่อยากจะเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคมาก แต่ยังไม่อยากเปิดเผยชื่อ

ที่ผ่านมาบุคคลที่มีชื่อเสียงอยากมาช่วย แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะติดที่นาย สมคิด รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่มีทฤษฎี ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ในตอนนี้แล้ว พูดได้ว่าไม่เวิร์ก จึงทำให้คนใหม่เข้ามาไม่ได้

“ผมคิดว่าถ้านายสมคิด ออกไป ก็จะทำให้คนใหม่เข้ามาได้อีกเยอะ โดยเฉพาะการทำงานด้านเศรษฐกิจ และสิ่งที่ผมพูด สะท้อนมาจากความคิดเห็นของประชาชน ที่เบื่อหน่ายกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นการแก้ปัญหา จำเป็นต้องระดมคนใหม่เข้ามาช่วยกัน” 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight