“รมว.คลัง” ไม่หวั่นหนี้เสียระบบการเงิน มั่นใจ “ธปท.” และ “ธนาคารพาณิชย์” รับมือปัญหาหนี้เสียได้ เหตุเคยผ่านวิกฤติมาก่อน ลั่นธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่งมาก
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ ว่า ตอนนี้ไม่ได้มีความกังวลเรื่องหนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระบบสถาบันการเงิน หรือธนาคารรัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง เพราะสถานการณ์กองทุนเข้มแข็ง และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ รวมถึงแบงก์ชาติ เคยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาแล้ว จึงรู้ว่าควรจะรับมือหรือวางแผนดูแลระบบธนาคารอย่างไร
“ขอย้ำว่า ไม่มีความกังวลในเรื่องนั้น ยืนยัน ทางธปท. และธนาคารพาณิชย์ก็ยืนยัน ถือเป็นข้อดี วิกฤติครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง เป็นวิกฤตที่มาจากความต้องการ(อุปสงค์ที่ต้องการใช้เงิน)ไม่ใช่อุปทาน หรือของไม่ดี ถ้าเศรษฐกิจเริ่มผ่อนคลาย สถานการณ์โดยตัวมันเองจะกลับมา” นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น ก็พร้อมจะหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติม อาทิ การตั้งกองทุนใหม่เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นผู้ดูแล ซึ่งปัจจุบันกำลังหารือกันอยู่ว่าจะออกมารูปแบบใด
ทั้งนี้ ในการประชุมนี้ มีการหารือเพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ ในระยะข้างหน้า และหารือกันว่า ควรออกมาตรการใดบ้าง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ชายขอบ ที่ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือของรัฐบาลได้ ให้เข้าถึงแหล่งทุนในการเสริมสภาพคล่องให้ได้มากที่สุด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยอยู่ได้
ส่วนโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft Loan จำนวน 500,000 ล้านบาท ที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันปล่อยกู้ไปแค่ 90,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยตนมองว่าแม้จะปล่อยได้ไม่มาก แต่ก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ และตอนนี้ยังไม่ได้มีมาตรการใดๆ เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในส่วนนี้
เมื่อถามถึงเรื่องที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในเดือนกรกฎาคม 2563 ธุรกิจจะทยอยปิดกิจการมากขึ้น นายอุตตม กล่าวว่า หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะต้องเร่งคิดมาตรการช่วยขยายธุรกิจ ปรับโครงสร้างธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้อยู่ได้ เพื่อให้รักษาการจ้างงานไว้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อุตตม’ จี้ 3 กรมปรับแผนรีดภาษี หลังโควิดฉุดจัดเก็บรายได้พลาดเป้า!
- ‘อุตตม’ พร้อมแจงงบประมาณฯ ปี 64 มั่นใจผ่านฉลุย!
- ‘อุตตม’ ยันไม่ถอดใจ! ย้ำ ‘บิ๊กตู่’ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม.