General

สธ. เผาทำลายยาเสพติด มูลค่ากว่า 55,941 ล้านบาท วันต่อต้านยาเสพติดโลก

เผาทำลายยาเสพติด ให้โทษของกลาง ครั้งที่ 50 วันต่อต้านยาเสพติดโลก รวม 25,301 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 55,941 ล้านบาท ทั้งยาบ้า ไอซ์ เฮโรอีน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี เผาทำลายยาเสพติด ให้โทษของกลาง ครั้งที่ 50 ประจำปี 2563 เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

เผาทำลายยาเสพติด

ในปีนี้ยาเสพติดให้โทษของกลาง จากคลังเก็บรักษายาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่เผาทำลายมีจำนวน 25,301 กิโลกรัมจาก 2,751 คดี มูลค่ากว่า 55,941 ล้านบาท

ตัวอย่างเช่น เมทแอมเฟตามีน แอมเฟตามีน หรือยาบ้า 203 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 40,000 หมื่นล้านบาท ยาไอซ์มูลค่า 12,932 ล้านบาท เฮโรอีนมูลค่า 2,301 ล้านบาทฯลฯ

นอกจากนี้ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังร่วมเผาวัตถุออกฤทธิ์ของกลาง จำนวนกว่า 1,187 กิโลกรัมจาก 724 คดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี และกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมเผาทำลาย ภาชนะ หีบห่อ บรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานยาเสพติดรวม 15 กล่อง

เผาทำลายยาเสพติด

ส่วนของกลางทั้งหมด จะถูกเผาทำลายด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชัน (Pyrolytic Incineration) ที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุล กลายเป็นคาร์บอน ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ขณะที่ในปีนี้ สธ.ได้กำหนดวันเผาทำลายยาเสพติดให้โทษ 3 วัน คือวันที่ 26 มิถุนายน 2563 จำนวนกว่า 8,466 กิโลกรัม, วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 จำนวนกว่า 8,275 กิโลกรัม และวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 จำนวนกว่า 8,558 กิโลกรัม

สำหรับสถิติการเผาทำลาย ยาเสพติดให้โทษของกลาง ตั้งแต่ปี 2520-2563 รวม 50 ครั้ง มีน้ำหนักรวมกว่า 170,545 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 273,331 ล้านบาท มากที่สุดได้แก่ เมทแอมเฟตามีน/ แอมเฟตามีน ฝิ่น และอื่นๆ เฮโรอีน และ เอ็คซ์ตาซี่ ตามลำดับ

ยาบ้า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่หลัก ในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ป้องกันไม่ให้กลับมาเสพซ้ำ

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 ตั้งเป้านำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด 210,982 คน แบ่งเป็นระบบสมัครใจ 113,382 คน บังคับบำบัด 56,600 คน ต้องโทษ 26,000 คน และระบบคุมความประพฤติ 15,000 คน

สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 – 15 มิถุนายน 2563 นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดฯ แล้ว 128,520 คน คิดเป็น 60.92% จากระบบสมัครใจ 48,479 คน ระบบบังคับบำบัด 66,253 คน และระบบต้องโทษ 13,788 คน

อนุทิน3

ทั้งนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศพร้อมให้คำปรึกษาและนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาที่ได้มาตรฐานสากล โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเลิกยาเสพติดได้ที่สายด่วน 1165 ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo