Environmental Sustainability

Dow เปิดเป้าหมายใหม่ ‘ลดก๊าซเรือนกระจก- หยุดขยะพลาสติก’

Dow ประกาศความมุ่งมั่นใหม่ ต่อยอดจากเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 เน้นแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  และขยะพลาสติก มุ่งสู่การเป็น บริษัทด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก โดยดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม เอาใจใส่ต่อลูกค้า และให้การยอมรับบุคลากรที่หลากหลาย

นายจิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Dow กล่าวว่า การประกาศเป้าใหม่ในวันนี้เป็นอีกก้าวของเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเรา ที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อกว่า 30 ปีก่อน

Dow

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขยะพลาสติกเป็นสองปัญหาใหญ่ที่สุดในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อมที่โลกได้เคยเผชิญมา ซึ่งผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท จะมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาทั้งสองเรื่องนี้

” บริษัทมีความรับผิดชอบ และมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในการแก้ไขความท้าทายนี้ได้ ผมเชื่อว่าอนาคตที่ยั่งยืนนั้นเป็นจริงได้ แต่พวกเราต้องลงมือแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องด้วยความรับผิดชอบ และร่วมมือร่วมใจกันหาโซลูชั่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะพลาสติกได้อย่างตรงจุด”

เป้าใหม่ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ การลดขยะ ที่สอดคล้อง และต่อยอดจากเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 มีดังนี้

เป้าหมายใหม่ DOW

  • ต้านโลกร้อน

ภายในปี 2573 จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวน 5 ล้านตันต่อปี หรือ ลดลง 15% จากฐานปี 2563

นอกจากนี้ ยังตั้งใจจะเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 เพื่อให้สอดคล้องกับความตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยบริษัทตั้งใจที่จะใช้และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง เพื่อช่วยให้ลูกค้าของ Dow ได้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเช่นกัน

  • หยุดขยะพลาสติก

ภายในปี 2573 จะช่วย “หยุดขยะพลาสติก” โดยการทำให้ขยะพลาสติกจำนวน 1 ล้านตัน ถูกเก็บกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิล ผ่านการดำเนินงานของบริษัท และความมือร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ

บริษัทกำลังลงทุนและร่วมมือกับทุกภาคส่วนในด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่จะเพิ่มการรีไซเคิลทั่วโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ

  • ส่งเสริมวงจรรีไซเคิล

ภายในปี 2578 จะช่วยสร้าง “วงจรรีไซเคิล” ให้สมบูรณ์โดย ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ที่นำไปผลิตเป็นแพ็คเกจจิ้ง จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิลได้ ซึ่งบริษัทมีความมุ่งมั่นจะออกแบบ และคิดค้นโซลูชันการนำกลับมาใช้ และการรีไซเคิลให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับงานแพ็คเกจจิ้ง

Dow
จิม ฟิทเทอร์ลิง

นอกเหนือจากการดำเนินงานต่าง ๆ ที่ Dow ได้ทำในทั่วโลกเพื่อจะบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนแล้ว บริษัทยังได้ทำสัญญาเรื่อง การใช้พลังงานหมุนเวียน ในโรงงานที่อาร์เจนตินา บราซิล รวมทั้งที่รัฐเท็กซัส และเคนตักกี้ ในสหรัฐ โดยจะใช้พลังงานจากทรัพยากรหมุนเวียนทั้งหมด 338 เมกะวัตต์ ประมาณการเทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 225,000 ตัน ตรงกับแผนงาน ที่มีเป้าหมายจะใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่า 750 เมกะวัตภายในปี 2568

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจำนวนมาก ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตของตัวผลิตภัณฑ์เอง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบาขึ้น และใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ อาคารที่ประหยัดพลังงานมากกขึ้น และอาหารที่ปลอดภัยและคงความสดใหม่ได้นานขึ้น

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับโลกที่คาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านคนภายในปี 2593

บริษัทยังนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิล สำหรับงานแพ็คเกจจิ้ง ที่ได้มาจากกระบวนการรีไซเคิลเชิงกล หรือ Mechanical Recycling (การนำขยะพลาสติกมาบดและหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล) ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและการใช้พลังงานได้ถึง 20-30%

เป้าหมายเรื่องขยะพลาสติก คือ ต้องแน่ใจว่า การลงทุน และความร่วมมือต่าง ๆ รวมถึงการลงทุนใน Alliance to End Plastic Waste และ Circulate Capital นั้น มีเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะหยุดขยะพลาสติกไม่ให้ไปสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมนำธุรกิจไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

Dow

“การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการหยุดขยะพลาสติกเป็นเรื่องท้าทายที่มีความเชื่อมโยงกัน ในฐานะที่เราเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เราจึงคิดค้นและลงทุนในกระบวนการผลิตแบบใหม่ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งมองขยะเป็นทรัพยากรที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้” แมรี่ เดรฟส์ รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน กล่าว

นอกจากนี้ จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ องค์กรไม่แสวงหากำไร ผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบ พันธมิตรด้านเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมทั้ง เทคโนโลยีที่ปลดปล่อยคาร์บอนในระดับต่ำ เพื่อในที่สุดแล้วจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วม กับการลดก๊าซเรือนกระจกดังที่กล่าวมาได้  Dow ตั้งใจจะเปิดเผยข้อมูลด้านความร่วมมือเพิ่มเติมในปลายปีนี้

จากเนื้อหาของรายงานความยั่งยืนปี 2562 ที่เผยแพร่ออกมา มีความคืบหน้าในการดำเนินงานเพื่อไปถึงเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 โดยเรื่องที่ดำเนินการไปตั้งแต่ปี 2549 เช่น

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้ว 15%
  • รวมราคาคาร์บอนเครดิตเข้าไปอยู่ในแผนธุรกิจ
  • ลงทุนในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน
    Dow เป็นบริษัทที่ใช้พลังงานสะอาดมากเป็นเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมเคมี และติด 1 ในท็อป 25 ของบริษัททั่วโลกในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน

สำหรับประเทศไทย นอกจากการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย ยังได้หารือความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การระหว่างประเทศ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)  ริเริ่มโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ในการอนุรักษ์ป่าชายเลนซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับป่าไม้ประเภทอื่น และป้องกันขยะไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ด้วยกลไกทางเศรษฐศาสตร์ และการมีส่วนร่วมของชุมชน

Mangrove

ในปีนี้จะเริ่มทำโครงการนำร่องที่ป่าชายเลน ในเขตเทศบาลตำบลปากน้ำประแส จังหวัดระยอง เป็นแห่งแรก และจะขยายผลไปยังป่าชายเลนที่สำคัญของประเทศไทยต่อไปอีกด้วย

“เราดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนที่ปากน้ำประแสมานานกว่า 11 ปี และ ในปีนี้เราจะยกระดับโครงการให้ใหญ่และครบวงจรมากขึ้น เพื่อเป็นโครงการนำร่อง เตรียมการขยายไปยังป่าชายเลนที่สำคัญในจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งสร้างการมี ส่วนร่วมทั้งกับชุมชนและประชาชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแก้วิกฤตโลกร้อน ลดปัญหาขยะทะเลด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ของบริษัททั่วโลก” นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว

อ่านเพิ่มเติม

Avatar photo