นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.อาจพิจารณาปรับเป้าหมายการขยายตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหรือ MPI ปี 2561 ใหม่ จากเป้าเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.5-3% เนื่องจาก MPI ขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15
สำหรับ MPI เดือนกรกฎาคม 2561 ขยายตัว 4.64% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2561 ที่ขยายตัว 5% แม้ขยายตัวลดลง แต่ MPI ยังคงขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 จากปัจจัยสนับสนุนการส่งออกเดือนกรกฎาคม 2561 ที่มีมูลค่าสูงถึง 20,424 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 โดยเฉพาะการส่งออกไปญี่ปุ่น สหภาพยุโรป อินเดีย และอาเซียน
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมสูงสุดในรอบ 62 เดือน ส่วนภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2561 ขยายตัว 4.0% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.9 เท่านั้น ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ 67.3% อุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อ MPI ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำตาลทราย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
นายณัฐพล กล่าวว่า แนวโน้มสงครามการค้าจีนและสหรัฐที่ขณะนี้ก้าวสู่ระลอกที่ 3 แล้ว ประเมินว่า มาตรการตอบโต้จีนของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนสหรัฐที่เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าในจีนส่งออกไปสหรัฐ ส่วนผลกระทบกับไทยไม่ชัดเจน ส่วนการที่เครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกไปสหรัฐลดลงน้ัน น่าจะมีสาเหตุมาจากการย้ายฐานการผลิตมากกว่า
ด้านการเจรจากับเวียดนามเรื่องมาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษีรถยนต์ที่ส่งไปขายในเวียดนามไม่ประสบผลสำเร็จนั้น ทางการเวียดนามยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ ล่าสุดไทยส่งรถยนต์เข้าไปขายมียอดสะสมเพียงกว่า 12,000 คันเท่านั้น จากเป้าหมายที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประมาณการส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามปีนี้ว่าจะส่งออกได้ถึง 65,000 คัน ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์อาจพิจารณาย้ายฐานการผลิตอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสิ่งทอมาแล้ว และยังไม่เห็นแนวโน้มว่าการเจรจาไทยกับเวียดนามจะตกลงกันได้ สะท้อนว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี คงไม่มีความหมายกับทางการเวียดนามแล้ว การประชุมระดับอาเซียนจึงต้องพิจารณาในประเด็นนี้เช่นกัน
