Politics

‘บิ๊กตู่’ ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ร่วมสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว

“นายกรัฐมนตรี” ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ไทยร่วมขับเคลื่อนอาเซียน “ที่เชื่อมโยง เข้มแข็งจากภายใน และมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น” ในยุคหลังโควิด-19

ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการ ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 10 ประเทศ และ เลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุมด้วย

ในช่วงแรกของการ ประชุมสุดยอดอาเซียน นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้กล่าวเปิด ซึ่งมีใจความสำคัญ โดยสรุปดังนี้ เศรษฐกิจของอาเซียนใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) แล้ว 6 ฉบับ กับ 7 หุ้นส่วนใหญ่ของโลก ทำให้อาเซียน ได้รับการยอมรับว่า เป็นภูมิภาคที่มีอำนาจของโลก จากความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลง ที่โลกไม่เคยประสบมาก่อน อาเซียนจำต้องใช้โอกาส และประสิทธิภาพที่มีให้เป็นประโยชน์สูงสุด

ประชุมสุดยอดอาเซียน

1. สันติภาพ ความมั่นคง ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความรุ่งเรือง จะยังคงเป็นเป้าหมาย และเอกลักษณ์ที่สำคัญของอาเซียน

2. ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนแบบไร้รอยต่อ

3. ความสามารถในการฟื้นตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

4. การเติบโตอย่างยั่งยืน และมั่นคง

สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมความร่วมมืออย่างเข้มแข็งในอนุภูมิภาคอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไทย และประชาคมโลก อยู่ในช่วงกำลังปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ และใ นขณะเดียวกัน ก็กำลังรับมือกับ สภาพภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ผันผวนมากขึ้น ส่งผลต่อความมั่นคง และเสถียรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งอาเซียนควรร่วมมือกัน เสริมสร้างระบบภูมิภาคนิยมให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการช่วยเหลือกันในระดับโลก

ประชุมสุดยอดอาเซียน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทาง เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนในยุคหลังโควิด-19

1. เร่งดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (MPAC) 2025 และ ส่งเสริมความเชื่อมโยงและ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เพื่ออาเซียนที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่า อาเซียนควรเริ่มพิจารณาแนวทาง การผ่อนคลายมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจ และการเดินทางระหว่างกันของประชาชน

2. เร่งขับเคลื่อนบูรณาการทางเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน และเร่งลงนาม RCEP ภายในปีนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง จากภายในช่วยให้อาเซียนฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างรวดเร็ว และ ส่งเสริมการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพราะ เศรษฐกิจดิจิทัล จะเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะเพิ่มมูลค่าจีดีพีของอาเซียนให้สูงขึ้น ตลอดจน ต้องต่อยอดจุดแข็ง ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยอาศัยเทคโนโลยี และนวัตกรรมตาม “โมเดลเศรษฐกิจ BCG”

3. เร่งเตรียมความพร้อมต่อความผันผวน และ ความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นในระยะยาว โดย นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้คณะมนตรีประชาคมอาเซียน ทั้งสามเสาหลัก เริ่มจัดทำแผนฟื้นฟู เพื่อวางแนวทางให้แก่อาเซียนในอนาคต โดยต่อยอดจากความสำเร็จต่าง ๆ และ ควรครอบคลุมประเด็น ความมั่นคงทางสาธารณสุข เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร เสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และ การป้องกันแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน ซึ่งประเทศไทย ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า อาเซียน ต้องเร่งดำเนินการเชิงรุกเตรียมการในทุกมิติ ต้องยึดมั่นแนวทางการมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ ให้ความสำคัญ กับการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งรวมถึงแรงงานข้ามชาติ

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับรอง “วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่า ด้วยอาเซียนที่แน่นแฟ้น และตอบสนอง” พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของไทย ที่จะร่วมเสริมสร้างความร่วมมือ และความเป็นปึกแผ่นในอาเซียน ควบคู่ไปกับ การแสวงหาความเป็นหุ้นส่วนกับภาคีภายนอก

ประชุมสุดยอดอาเซียน

สำหรับเอกสารสำคัญจากการประชุม ซึ่งผู้นำอาเซียนจะรับรองมี 2 ฉบับ คือ

1. วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่า ด้วยอาเซียนที่แน่นแฟ้นและตอบสนอง : ก้าวข้ามความท้าทาย และเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่เน้นความแน่นแฟ้น ของอาเซียนในทุกมิติ เสริมสร้างขีดความสามารถ ของกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ เพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาส เช่น ภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และผลกระทบจากโรคโควิด-19 เป็นต้น

2. ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของงาน เป็นเอกสารที่แสดงเจตจำนง ทางการเมืองของประเทศสมาชิกอาเซียน ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีศักยภาพ และ สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นกับโลก เช่น สนับสนุนให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน พัฒนาฐานข้อมูลด้านตลาดแรงงาน การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการพัฒนาทักษะแรงงาน เป็นต้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK