รับมือผ่อนปรนระยะ 5 นายกฯ สั่งการ ตำรวจตรวจเข้ม คิดก่อนเกิดปัญหา หลังพบสถานบริการเริ่มการ์ดตก ย้ำทุกภาคส่วน รวมใจสร้างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธาน การประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2563 ว่า ในการผ่อนปรนกิจกรรม และกิจการบางประเภทระยะที่ 5 ในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ ต้องเตรียมการ รับมือผ่อนปรนระยะ 5 ตั้งแต่ต้น โดยต้องคิดไว้ก่อนว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจและการทำมาหากินของประชาชน
ขณะที่ ฝั่งมาตรการของรัฐ ก็จะต้องมีระดับที่เข้มข้น ในการ รับมือผ่อนปรนระยะ 5 โดยเฉพาะการติดตามตรวจสอบ หากเปิดแล้วก็สามารถปิดได้ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่งรัฐบาลต้องคิดให้รอบด้าน โดยต้องดูว่า มีปัญหาที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง จะปลดล็อตตรงไหน อย่างไร มีมาตรการไหนรองรับ และลดความเสี่ยงได้บ้าง
“ขอบคุณประชาชน ที่ร่วมมือมาตลอดที่ผ่านมา จนทำได้ถึงวันนี้ มีความก้าวหน้าตามลำดับ รวมทั้ง มีความก้าวหน้าในเรื่อง การวิจัยและพัฒนายารักษา ถือเป็นประเทศสำเร็จในชั้นต้น ถ้าเทียบกับหลายประเทศ ที่มีศักยภาพในเวลานี้ ซึ่งการร่วมมือของคนไทยทุกคน คือคำว่า รวมไทยสร้างชาติ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เริ่มพบว่า มีหลายแห่งที่เห็นตามสื่อ โดยเฉพาะสถานบริการ ต่างๆ เริ่มไม่ระวัง ดังนั้นต้องสร้างความเข้าใจ ให้มีความรับผิดชอบสังคม ไม่เช่นนั้นหากมีการแพร่ระบาดรอบใหม่ ทุกอย่างจะเสียหายหมด จึงฝากสื่อช่วยเตือนด้วย
ในส่วนของมาตรการสาธารณสุข ได้เน้นย้ำให้ทุกคน ยังคงเคร่งครัด และเข้มงวดกับตัวเอง ขณะที่สังคม ชุมชน และพื้นที่ก็ต้องดูแล ทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่น ที่ต้องเป็นกำลังหลัก ดูแลประชาชน ดูแลครอบครัว ดูแลตัวเองและคนอื่น เรียกว่า รวมไทยสร้างชาติ
“คนไทยทุกคน ก็หวังให้ประเทศชาติปลอดภัย มีความสุข มีความก้าวหน้า และพัฒนาก็ต้องร่วมมือกัน ตนยินดีรับฟัง หากเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ ตนก็รับมาและรับปาก อะไรที่ดูแลได้ ก็จะช่วยดูแล”นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2563 ว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทุกนายที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ ในการสนองนโยบายของรัฐบาล เกี่ยวกับการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
ส่วนการดำเนินคดี ที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ความผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยใช้กฎหมายเป็นตัวตั้ง ให้ใช้หลักรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ควบคู่กัน
นอกจากนี้นายกฯ ยังกำชับเกี่ยวกับ การผ่อนคลายล็อกดาวน์ ซึ่งจะเข้าสู่ระยะที่ 4-5 มีหลายกิจกรรม ที่ต้องให้ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจและทหาร ช่วยกันกำกับดูแล เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความราบรื่น และคนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังมอบนโยบายให้ ตำรวจ ดำเนินการปราบปราม อาชญากรรม ที่กระทบต่อชีวิตพี่น้องประชาชน อาทิ การกวาดล้างยาเสพติด กลุ่มนายทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ การพนันออนไลน์ หรือนายทุนที่รับจำนำรถในบ่อนการพนัน ตำรวจ ต้องสร้างความเชื่อมั่นโดยการทำงาน มีการทำงานวิถีใหม่ โปร่งใส ลดขั้นตอนการปฏิบัติ
ประเด็นสุดท้าย นายกฯ กำชับ เกี่ยวกับบทบาทของผู้บังคับบัญชา ที่จะต้องให้ทั้งคุณและโทษกับผู้ใต้บังคับบัญชา ในกรณีที่ ตำรวจ ทำผิดในรูปแบบต่างๆ ต้องลงโทษอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมวันนี้ มีการพิจาณาปลดออกไล่ออกข้าราชการ ตำรวจ ที่กระทำผิด จำนวน 42 นาย เป็นกรณีของการละทิ้งหน้าที่เกินกว่า 15 วันเกี่ยวพันกับยาเสพติด กรณีต้องหาคดีอาญาและกระทำผิดวินัยร้ายแรง รวมทั้งพิจารณาปรับแนวทางในการตอบแทนความดีความชอบ ให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหนื่อยยาก
ขอบคุณภาพจาก : http://www.policetv.tv/
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ ย้ำเทงบหนุน อสม. สุดคุ้ม ช่วยไทยคุมไวรัสโควิด-19 ดีเยี่ยม
- ด่วนมาก!! ‘ศบค.ชุดเล็ก’ เคาะต่อ ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ อีก 1 เดือน
- เปิดชัด!! 5 มาตรการเข้ม Travel Bubble ก่อนชง ศบค.เคาะจันทร์นี้
