Politics

‘กยศ.’ แจงดราม่ายึดบ้าน 2 ล้านขายทอดตลาด เพื่อจ่ายหนี้ 1.7 หมื่นบาท!

“กยศ.” แจงดราม่ากรณียึดบ้าน 2 ล้านขายทอดตลาด เพื่อจ่ายหนี้ 1.7 หมื่นบาท ชี้พยายามติดต่อทั้งคนกู้ คนค้ำมานานแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้จึงต้องดำเนินคดี

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีพี่สาวของผู้กู้ยืมเงินกองทุน ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่าถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ประกาศขายทอด ตลาดทรัพย์ โดยเป็นหนี้ กยศ. เพียง 17,000 กว่าบาท แต่กลับถูกบังคับคดียึดบ้านในราคา 2 ล้านกว่าบาท ไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้นั้น

ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์256631

กองทุนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า ผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 และศาลได้มีคำพิพากษาให้ชำระหนี้เงินต้น จำนวน 17,868 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ผู้กู้ยืมไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจึงจำเป็น ต้องดำเนินการสืบทรัพย์บังคับคดี จากการสืบทรัพย์ พบทรัพย์สินของผู้กู้ แต่ไม่สามารถยึดได้ เนื่องจาก ถูกเจ้าหนี้รายอื่นยึดไว้แล้ว กองทุนจึงจำเป็น ต้องดำเนินการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งที่ดินดังกล่าว ติดจำนองเจ้าหนี้รายอื่นอยู่ ต่อมาในช่วงต้นปี 2562 ผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และไม่ได้ติดต่อกองทุน เพื่อทำบันทึกข้อตกลงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้

ทั้งนี้ หากผู้กู้ยืม หรือ ผู้ค้ำประกันมาติดต่อ ก็สามารถของดการขายทรัพย์และผ่อนชำระหนี้ได้อีก 6 ปี ต่อมาสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ได้ดำเนินการประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยขายแบบติดจำนอง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และมีบุคคลภายนอกซื้อได้ในราคา 30,000 บาท โดยการขายครั้งนี้ เป็นการขายครั้งที่ 11 ซึ่งในการขายทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่มีผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมาดูแลการขาย

กองทุนขอชี้แจงว่า ก่อนที่จะมีการบังคับคดี กองทุนพยายามที่จะติดต่อกับผู้กู้ยืม และผู้ค้ำประกัน ทั้งทางจดหมาย และทางโทรศัพท์ และได้ดำเนินการตามขั้นตอน การติดตามหนี้มาโดยตลอด จนในที่สุด กองทุนมีความจำเป็น ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่มาจากภาษีของประชาชน 

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายนี้ กองทุนก็ได้ประสานงานกับผู้ซื้อทรัพย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ซื้อทรัพย์ยินดีขายทรัพย์คืนให้แก่ผู้ค้ำประกันในราคาซื้อ

ทั้งนี้ กองทุนขอฝากถึงผู้กู้ยืม และผู้ค้ำประกัน ที่ถูกบังคับคดี ขอให้มาติดต่อที่กองทุน เพื่อจะได้โอกาสในการผ่อนชำระได้อีกไม่เกิน 6 ปี และขอฝากเรื่องการค้ำประกันการกู้ยืมใดๆ ขอให้ผู้ค้ำประกันตระหนักว่า จะเป็นภาระผูกพันทางกฎหมาย โดยขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้อง จนเดือดร้อนถึงผู้ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบิดามารดาและญาติๆ และกองทุนขอให้ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ทุกท่านตระหนักถึงการชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo