Business

ต่างชาติลงทุนไทย เดือนพ.ค. 45 ราย เม็ดเงินกว่าหมื่นล้าน

ต่างชาติลงทุนไทย เพิ่ม 45 ราย เดือนพฤษภาคม 2563 เงินลงทุนรวม 11,314 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดือนก่อนหน้า ญี่ปุ่นยังลงทุนไทยสูงสุด

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2563 ได้อนุญาตให้ ต่างชาติลงทุนไทย เพื่อประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 45 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 25 ราย รวมเม็ดเงินลงทุน 11,314 ล้านบาท

Stocks ๒๐๐๖๒๕ 0001

ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ เดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดือนเมษายน 2563 เนื่องจากมีนักลงทุนต่างชาติ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ หรือ ประกอบธุรกิจตาม กฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนจดทะเบียนสูง

สำหรับการลงทุน ส่วนใหญ่ เป็นการประกอบธุรกิจสนับสนุนบริษัทในเครือ/ในกลุ่มที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเคมี และ กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-COMMERCE) โดยเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มกลาง สำหรับจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรม เป็นต้น

ขณะที่ นักลงทุน ต่างชาติลงทุนไทย มากที่สุดเดือนพฤษภาคม ได้แก่ ญี่ปุ่น 6 ราย เงินลงทุน 122 ล้านบาท ตามด้วยเนเธอร์แลนด์ 4 ราย เงินลงทุน 62 ล้านบาท และฮ่องกง 2 ราย เงินลงทุน 28 ล้านบาท

วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์
วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์

นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคม มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน บริษัทใหม่ทั่วประเทศ 4,195 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 9,672 ล้านบาท

ประเภท ธุรกิจจัดตั้งใหม่ สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 502 ราย รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 172 ราย และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร 128 ราย

เมื่อแบ่งตามช่วงทุน พบว่า ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาทจัดตั้งมากที่สุด 3,136 ราย รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท 1,001 ราย ตามด้วยช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท 52 ราย และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท 6 ราย

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 905 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน  2,975 ล้านบาท โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 109 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 43 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 27 ราย

เมื่อแบ่งตามช่วงเงินลงทุนพบว่า ธุรกิจที่ลงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท ขอเลิกกิจการมากที่สุด 645 ราย รองลงมาคือเงินทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท 221 ราย ตามด้วยเงินทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท 37 ราย และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท 2 ราย

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ  768,371 ราย มูลค่าทุน 18.45 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 188,350 ราย บริษัทจำกัด 578,755 ราย และบริษัทมหาชนจำกัด 1,266 ราย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การจัดตั้งธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ จากปัจจัยเชิงบวก ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ที่จะทยอยให้ธุรกิจได้รับรู้ รวมทั้ง คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และผู้บริโภคจะปรับสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเชิงลบมานานแล้ว

Avatar photo