World News

‘ดาวโจนส์’ นำหุ้นสหรัฐร่วง เจอแรงกดดัน ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์ศก.

ตลาดสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับลดลง จากการที่นักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนัก ถึงความเสี่ยงจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นที่มีต่อเศรษฐกิจ และการคาดการณ์ถึงความเสียหายที่รุนแรงขึ้นจากการระบาด รวมถึง ไอเอ็มเอฟ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่ม 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 25,650.59 จุด ร่วงลง 505.51 จุด หรือ 1.93% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,077.58 จุด ลดลง 53.71 จุด หรือ 1.72% และดัชนีแนสแด็กที่ 9,996.25 จุด ขยับลงมา 135.11 จุด หรือ 1.33%

stock

ความกังวลของนักลงทุน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีรัฐจำนวนมากขึ้นในสหรัฐ รายงานถึงการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ รวมถึง แอริโซนา และเท็กซัส ที่เพิ่งยกเลิกมาตรการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ดร.แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ ออกมาเตือนด้วยว่า ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาวิกฤติสำหรับการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ตลาดยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาระบุว่า วิกฤติโควิด-19 สร้างความเสียต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และเป็นวงกว้างมากกว่าที่ประเมินไว้ในครั้งแรก พร้อมหั่นตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงมาอยู่ในระดับติดลบ 4.9% จากเดิมที่ระบุไว้ว่า จะหดตัวลง 3.0%

ไอเอ็มเอฟ ชี้ด้วยว่า ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าจะได้รับผลกระทบหนักกว่าประเทศในกลุ่มอื่น โดยคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐ ในปีนี้ จะหดตัวถึง 8.0% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 5.9% และคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 10.2% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 7.5%

อย่างไรก็ดี จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงประเทศเดียว ที่ไอเอ็มเอฟ คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวในปีนี้ ที่ระดับ 1.0% แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเมษายนว่าจะขยายตัว 1.2%

ไอเอ็มเอฟ ย้ำว่า ยังเป็นเรื่องจำเป็นที่ธนาคารกลาง และรัฐบาลต่างๆ จะต้องออกมาตรการสนับสนุนการจ้างงาน และภาคธุรกิจ เพื่อเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo