ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การลดลงในกิจกรรมของภาคธุรกิจเริ่มชะลอตัวลง ทำให้มีความหวังว่า ช่วงเวลาเลวร้ายสุดของวิกฤติโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ ทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า สหรัฐไม่มีแผนที่จะคว่ำข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 กับจีนแต่อย่างใด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,261.26 จุด ขยับขึ้นมา 236.30 จุด หรือ 0.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,149.17 จุด ปรับขึ้น 31.31 จุด หรือ 1.00% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,182.74 จุด บวก 126.27 จุด หรือ 1.26%
แนสแด็กพุ่งทำสถิติใหม่เป็นครั้งที่ 5 แล้วในเดือนนี้ ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ ได้แรงหนุนทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่โบรกเกอร์อย่างน้อย 3 ราย ปรับราคาเป้าหมายหุ้นแอปเปิล อิงค์ขึ้นมา หลังจากที่ แอปเปิล ระบุว่า จะใช้ชิพของตัวเอง สำหรับ คอมพิวเตอร์แมค
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนยังไม่ยุติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ “The Story” ของสำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ ว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อมั่นมากขึ้นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีต้นตอมาจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีน
“ผมให้สัมภาษณ์เพียงเพื่อแสดงความรู้สึกว่า เราไม่ไว้ใจพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้วในตอนนี้ หลังจากที่พวกเขาโกหกเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัส จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก” นายนาวาร์โรกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความยืนยันถ้อยแถลงของนายนาวาร์โร โดยกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกยังคงมีอยู่
“ข้อตกลงการค้ากับจีนยังคงดำเนินไปอย่างเต็มรูปแบบ ผมหวังว่าจีนจะยังคงเดินหน้าทำตามเงื่อนไขต่างๆ ในข้อตกลง” ทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์
