“ผู้ว่าฯ อัศวิน” ย้ำ! 1 กรกฎาคม โรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่ง พร้อมเปิดแบบ New Normal กำชับต้องดูแลเข้ม ย้ำ!! นักเรียน ผู้ปกครอง และครู อาจจะยังต้องปรับตัวการเรียนการสอนรูปแบบใหม่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กผู้ว่าฯ อัศวิน โดยระบุว่า เปิดเทอมใหม่ 1 กรกฎาคม 2563 ครู นักเรียน และผู้ปกครอง จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้สถานการณ์จะดีขึ้นมาก แต่ก็ประมาทไม่ได้ครับ ออกนอกบ้าน หรืออยู่ที่โรงเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทั้งช่วงเวลาเรียนและช่วงพัก รวมถึงล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้เป็นนิสัย
สำหรับการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนสังกัดกทม. ทั้ง 437 โรงเรียนนั้น กทม.ยังคงเน้นให้ครูเป็นผู้สอนและดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชั้นเด็กเล็ก อนุบาล ถึง ป. 3 หรือโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนไม่เกิน 400 คน จะให้เด็กมาเรียนตามปกติทุกวัน
ส่วนชั้นเรียนเด็กโต ระดับชั้น ป.4 – ม.6 หรือโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งมีนักเรียนมากกว่า 400 คนขึ้นไป จะเป็นการเรียนแบบผสมผสาน โดยให้โรงเรียนพิจารณาความเหมาะสม ทั้งการเรียนในชั้นเรียนแบบปกติและสลับวันเรียน หรือการสลับวันมาเรียนทั้งหมด ซึ่งวันที่นักเรียนไม่ได้มาเรียน ก็จะมีการเรียนการสอนออนไลน์ หรือมอบแบบฝึกหัดและการบ้าน ใบงาน หรือกิจกรรมต่างๆ ให้ทำระหว่างอยู่ที่บ้าน หรือการสอนชดเชยกลุ่มเล็กที่โรงเรียนในกรณีจำเป็น เพื่อลดความแออัดภายในโรงเรียน และครูจะได้เฝ้าระวังโรคในกลุ่มนักเรียนได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
นอกจากนี้ กทม.ยังได้กำชับการปฏิบัติในมาตรการป้องกันด้านอื่นๆ เช่น การทำความสะอาดภายในโรงเรียน ห้องเรียน ห้องน้ำ และโรงอาหาร การทำความสะอาดเบาะที่นั่งภายในรถโรงเรียนทั้งก่อนรับและส่งนักเรียนทุกครั้ง การจัดพื้นที่สำหรับผู้ปกครองที่มารับ-ส่งนักเรียนด้วยตัวเองที่โรงเรียน การตั้งจุดคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน การเว้นระยะห่างกิจกรรมหน้าเสาธง การจัดที่นั่งในห้องเรียน โรงอาหาร และการตั้งจุดล้างมือในบริเวณโรงเรียนอย่างเพียงพอ เป็นต้น
เปิดเทอมนี้ ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และครู อาจจะยังต้องปรับตัวในเรื่องของการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนทำได้ แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ
ผู้ว่าฯ อัศวิน ได้โพสต์ข้อความอีกว่า สำหรับปัญหาทางเท้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเรื่องร้องเรียนอันดับต้นๆ และมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมรับทราบทุกปัญหา และกำลังพยายามแก้ไขปรับปรุงอย่างเต็มที่ ในช่วงที่ผมยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ครับ
ขณะนี้ ทางเท้าบนถนนหลายๆ สาย ที่แต่เดิมมีปัญหาหนักมาก มาวันนี้สวยงามแล้วครับ เช่น ถนนราชดำเนิน คลองคูเมืองเดิม ปากคลองตลาด คลองโอ่งอ่าง ถนนสุขุมวิท ถนนสีลม ถนนพระราม 4 ถนนราชดำริ ถนนพระราม1 (สยาม) ถนนพหลโยธิน (สนามเป้า) แยกประตูน้ำ และบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น ซึ่งพี่น้องประชาชน ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวบ่อยๆ คงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว
ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินนโยบายทวงคืนทางเท้า โดยเริ่มจาก การจัดระเบียบผู้ค้าบนทางเท้า ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งป้ายโฆษณา สายไฟ และสายสื่อสารต่างๆ ให้เป็นระเบียบ และสวยงาม ซึ่งก็ต้องยอมรับครับว่า การพัฒนาเมืองต้องมีผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอนครับ เพราะประชาชนทุกคน จะสามารถเดินเท้าได้ปลอดภัย บ้านเมืองสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และยังได้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
แม้ปัจจุบัน กทม. จะยังดำเนินการไม่ครบทุกเส้นทาง แต่ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา น่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนบางเส้นทางที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็ต้องขอเวลาหน่อยนะครับ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ก็จะคืนพื้นที่ให้แก่ กทม. เพื่อตรวจสอบร่วมกันอีกครั้งว่า มีการปรับปรุงทางเท้า ให้เป็นไปตามแนวทางที่ กทม. กำหนดหรือไม่ หรือ บางเส้นทางอยู่ระหว่างก่อสร้าง ท่อร้อยสายเพื่อนำสายสื่อสารลงดิน ต่อไปก็จะสวยงาม และสะอาดตามากขึ้น ส่วนปัญหาป้ายโฆษณาต่างๆ บนทางสาธารณะ ซึ่งเกิดก่อนผมเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ เมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาตามกฎหมาย ก็จะมีการพิจารณารื้อถอน และปรับปรุงทางเท้าให้สวยงามต่อไปครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘จักรพันธ์’ ส.ส.กทม. ดันเพิ่มความสำคัญใช้ทางม้าลาย รับสังคมสูงวัย
- ผู้ปกครองอ่านด่วน! กทม.เตรียม 2 แนวทางจัดการเรียนการสอน 437 โรงเรียน
- กทม. ไล่ตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 รอลุ้นผล 1,027 ราย