Lifestyle

ระวัง!! ‘ไลฟ์สไตล์ New Normal’ แพทย์เตือน ‘เสี่ยงเครียด-ตับพัง’

ไลฟ์สไตล์ New Normal น่าเป็นห่วง แพทย์เตือน Work from anywhere ส่งผลเฝ้าหน้าจอทั้งวัน เสี่ยงเครียดทำลายตับ แนะออกกำลังกายเสริมภูมิคุ้มกัน

ไลฟ์สไตล์ New Normal ดูจะเป็นกระแส รูปแบบการดำเนินชีวิต ที่มาแรง ในช่วงที่ทั่วโลก ยังคงต้องเฝ้าระวัง เรื่อง การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19

ไลฟ์สไตล์ New Normal

ด้วยมาตรการที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในเวลานี้ มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อปกป้องตนเองจากโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็น การงดเดินทาง งดกิจกรรมการพบปะ สร้างระยะห่างทางกายภาพ

นั่นหมายรวมถึง รูปแบบการทำงาน ส่งผลให้การสื่อสารทางไกล ผ่านเทคโนโลยีสื่อออนไลน์ ยิ่งทวีความสำคัญ และทรงอานุภาพที่สุด ในรอบหลายปี เนื่องจากหลายหน่วยงาน ปรับวิธีการทำงานสู่รูปแบบ Work from anywhere ทำให้ การสื่อสารระหว่างบุคลากร เพื่อการติดต่อประสานงาน มักเกิดขึ้นผ่าน Online conference ซึ่งประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง

แต่นั่นก็หมายถึง กิจวัตรที่จะต้องประจำการ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน เพื่อรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน จนเกิดการละเลย ที่จะดูแลสุขภาพกาย อย่างเช่น การออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายจากอิริยาบถเดิม ๆ เป็นเวลานาน

ยิ่งไปกว่านั้น คนวัยทำงานในบางกลุ่ม อาจต้องเผชิญกับความเครียด จากรายได้ที่ขาดหายไป ในช่วงการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ขณะที่ยังต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่มากขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อวัยวะภายในโดยที่เราไม่รู้ตัว

เครียด

พญ.พรนภา ปวีณดำรง ที่ปรึกษา นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สาขาวิชาวิทยาการชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ และ RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา แพทย์ผู้วิจัย พบผลการศึกษาบางอย่าง ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ เรื่องของ “ความเครียด” ที่ส่งผลต่อตับ โดยสามารถอธิบายกลไกได้ 3 ข้อ ได้แก่

1. กลไกการขาดอ๊อกซิเจน

เนื่องจาก ความเครียด ส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยงตับได้น้อยลง ทำให้เกิดการขาดอ๊อกซิเจน ในระดับเซลล์ตับ ลดลงด้วย ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ เป็นพิษทำลายเซลล์ตับ นอกจากนี้ ความไม่สมดุลระหว่าง อนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระ ยังส่งผลให้เกิดความเครียด เกิดการหลั่งสาร TNF-alpha ที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น 4-7 เท่า

2. กลไกการรั่วเข้าของ Lipopolysacharide

ความเครียด ทำให้เกิดการยินยอมในผนังลำไส้ถึง 2 เท่า จึงมีการรั่วเข้าของ Lipopolysacharide และสิ่งแปลกปลอม ยิ่งเพิ่มโอกาสเกิดความเสียหายในตับ

3. ฮอร์โมนความเครียดถูกกระตุ้นให้หลั่งมากเกินไป

ความเครียด จะกระตุ้นการทำงานของ ไฮโพทาลามัส และ ต่อมใต้สมอง ให้หลั่งฮอร์โมความเครียดออกมา ในกระแสเลือด มากกว่าคนปกติ 1.6 เท่า ซึ่งกดภูมิคุ้มกัน และทำให้เซลล์ตับอักเสบได้ นอกจากนั้น ความเครียด จะกระตุ้นต่อมหมวกไตให้ Epinephirne และ Norepinephirne ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์ทั้งหลายรวมถึงเซลล์ตับ

ออกกำลังกาย

นอกจากนี้ แพทย์ผู้วิจัย ยังพบข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ มีการเปลี่ยนค่าตับของอาสาสมัครทั้ง 25 คน นั่นคือค่า AST (SGOT) และ ALT (SGPT) ซึ่งส่วนใหญ่มีค่าปริมาณที่สูงขึ้นอย่างน่าแปลกใจ เมื่อเทียบค่าตับดังกล่าว ระหว่างช่วงก่อนมีมาตรการ Work from home และหลังจากมีมาตรการไปแล้ว 4 สัปดาห์

จากข้อมูลที่แพทย์ได้ค้นพบ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแม้ ไลฟ์สไตล์  New Normal จะดูสะดวกสบาย แต่ความเครียดจากการอยู่ในอิริยาบถเดิมนาน ๆ หรือความเครียดจากสภาวะเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพภายใน โดยที่เราไม่ทันสังเกตเห็น

ดังนั้น การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันง่าย ๆ จากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ละวางจากการคร่ำเคร่งต่อหน้าที่การงานบ้าง ก็สามารถสร้างสมดุลให้สุขภาพ และลดโอกาสการเจ็บป่วยได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo