Politics

ปรับครม.? ‘บิ๊กตู่’ ยันยังไม่ถึงเวลา ย้ำไม่มีใครต่อรองเก้าอี้ได้

ปรับครม.? “นายกรัฐมนตรี” ยืนยันยังไม่ถึงเวลา โยนถามนักการเมืองที่ให้ข่าว ปัดตอบกรณี “เดอะเต้” ประกาศพร้อมเป็นรัฐมนตรี ย้ำไม่มีใครต่อรองเก้าอี้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแถลงการณ์ เรื่อง “วิธีการทำงานแบบ New Normal ของนายกรัฐมนตรี” ว่า ทุกคนอาจสงสัยสิ่งที่ตนพูด ว่าคืออะไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ New Normal คือ สุขภาพ สาธารณสุข ความสุขของประชาชน ส่วนแนวคิดรวมไทยสร้างชาติ คือ ทุกคนต้องทำงานร่วมกัน ผ่านการมีส่วนร่วม ประชาชนมีส่วนร่วม กับการเมือง กับรัฐบาล อยู่แล้ว ผ่านการเลือกตั้งให้ ส.ส.เข้ามาเป็นตัวแทน และมาเป็นรัฐบาล ขณะที่ขั้นตอนแผนงานต่างๆ ถูกเสนอมาจากระดับพื้นที่

แต่หากจะมีคนทำให้เกิดปัญหา ถือเป็นเรื่องของบุคคล อีกทั้งมีการแบ่งอำนาจ การบริหารอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เช่น การกระจายอำนาจ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น หากกลไกลทั้งหมดนี้ ทำงานอย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพ ไม่ทุจริต จะเป็นแนวทางไทยสร้างชาติอยู่แล้ว

ปรับครม.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้รัฐมนตรีทุกคน นำแนวทางไปขับเคลื่อนต่อยอด โดยรัฐบาล มีแนวทาง การบริหารราชการแผ่นดินแนวใหม่ ไว้อยู่แล้ว หากเข้าไปค้นในโซเซียลมีเดีย จะพบว่า รัฐบาลชุดที่แล้ว มีแผนตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งครอบคลุมทั้ง เรื่องการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม การบริหารราชการแบบแนวนอน ขอให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจ เรื่องเหล่านี้ เพื่อจะได้ต่อยอด และขยายแนวทางให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ทุกอย่างมีแนวทางอยู่แล้ว ขอเพียงอย่าทำนอกระบบ อย่าทำให้เกิดการทุจริต

ผมเข้าใจว่า คนย่อมมีสองฝ่าย หากหลายคนบอกว่า ไว้ใจนายกรัฐมนตรี ผมก็ขอบอกคุณ หากถามต่อ ผมไว้ใจข้าราชการหรือไม่ ผมก็ต้องตอบว่าไว้ใจ แต่บ้านเมืองยังมีโจรผู้ร้าย ดังนั้น จะทำอย่างไร ให้บุคคลเหล่านี้หมดไป ทั้งนี้ การเมือง ต้องอยู่กับระบบราชการ เพราะเราเป็นประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายการเมือง เป็นอย่างดี เพราะผมยืนยันอยู่แล้วว่า ไม่ต้องการทุจริต ไม่ต้องการผลประโยชน์ แต่ต้องการรักษากฏหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนที่ระบุ ให้นักการเมือง ต้องก้าวข้ามเกมการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำว่า “เกมการเมือง” ในความหมายของตน คือ ทำอย่างไรให้การเมือง กับการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มาพันกัน ซึ่งการบริการราชการแผ่นดิน คือ กลไกเลือกตั้ง ส.ส.และ มาเป็นรัฐบาลเป็นคณะรัฐมนตรี และ บริหารราชการแผ่นดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายที่ให้ไว้ 12 ข้อ เดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ไม่ทุจริต คือการบริหารราชการแผ่นดิน

ปรับครม.

การเมือง เป็นเรื่องของการเลือกกรรมการบริหารพรรค เรื่องการคัดเลือกใครเป็นรัฐมนตรี เป็นเรื่องของเขา อย่าเอาอันนั้น มาตีกันตรงนี้ จะเอาตรงนั้น มากดดันผมไม่ได้ เพราะผมเคารพในสัดส่วน ของแต่ละพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่บางส่วนผมจำเป็นต้องบริหารเอง เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่ จะตั้งกันมาจนเกินคณะรัฐมนตรีแล้ว

เมื่อถามว่า แต่นักการเมืองยังคงเคลื่อนไหวประเด็นปรับครม. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ปรับเวลานี้ ข่าวการปรับครม.ที่ออกมาเวลานี้ ให้ไปถามนักการเมืองที่พูด ส่วนที่รัฐมนตรีบางคนกลัวโดนยึดเก้าอี้ ก็ต้องไปถามเขาว่าใครจะไปยึดของเขา

ส่วนกรณีที่นายมงคลกิตต์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลน์ ระบุว่าพร้อมเป็นรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เฮอะ เอาเถอะ เธอก็เป็นสิ

เมื่อถามย้ำว่า ข่าวการเมืองทำให้นายกรัฐมนตรีเสียสมาธิหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่หรอก ยังดีอยู่ ยังมีกำลังใจจากประชาชน นักการเมืองหลายคนก็ดีกับตน คำว่าดีกับตน คือ ให้ความร่วมมือดี คือพูดอะไรก็ฟังกัน ต่างคนต่างฟังกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหน้าพรรค ได้ให้กำลังใจหรือไม่ ว่า พล.อ.ประวิตร มีกำลังใจดีอยู่แล้ว โดยรับปากว่าหากมีความจำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ดีที่สุด

ถ้าถามว่า พล.อ.ประวิตร ต้องการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่เคยบอกว่า อยากเป็น แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น อาจจะต้องเป็น

ปรับครม.

ส่วนกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร จะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขัดตาทัพ ทำภารกิจบางอย่าง นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า ภารกิจบางอย่างคืออะไร ผู้สื่อข่าวขยายความว่า เป็นภารกิจสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการแบ่งก๊ก แบ่งเหล่าในพรรค ซึ่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐทำกันเอง แล้วควรจะเป็นก๊กกันหรือไม่

“ทำอย่างไรถึงจะลดลาวาศอกกันลงบ้าง ผมคิดว่าเขาก็ฟังผม นี่คือสิ่งที่ใครก็ตาม ที่ไปเป็นหัวหน้าพรรคต้องทำหน้าที่นี้ ให้สงบเรียบร้อย ไม่ใช่ทุกคนพยายามจะมีกลุ่ม มีพวกกันเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของพรรคจะเสนอ หรือใครจะเป็นอะไร ต้องเป็นเรื่องของพรรค แล้วนายกฯ จะคัดกรองอีกที ส่วนตัวผม ยังไม่คิดเรื่อง นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่า เรื่องการปรับครม.ไม่มีใครจะมาต่อรองกับผมได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวคุยไลน์กับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ว่า ใครเป็นคนเขียน เราบอกแต่เพียงว่ายังไม่ได้ปรับตอนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ปรับในวันหน้า

เมื่อผู้สื่อข่าวพยามยามขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเปิดหน้ากากอนามัยแล้วพูดดัง ๆ ให้ชัดว่า ยังไม่ปรับครม.ในเวลานี้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดไปอย่างนี้ หูตึงกันหรืออย่างไร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo