Business

เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์รอบ 2 วันนี้จ่ายอีกกว่าแสนราย เช็คเลย!!

เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์รอบ 2 “ธ.ก.ส.” เผยล่าสุดจ่ายเงินเยียวยา 2 งวดแล้ว 71,549.96 ล้านบาท วันนี้เตรียมโอนอีก 114,074 รายให้กับกลุ่มที่มีบัญชีอยู่กับธนาคารอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า “มาตรการเยียวยาเกษตรกร” ที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเยียวยารายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์นั้นจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน”

เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์รอบ 2

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้โอนเงินเยียวยางวดที่ 2 ของเดือนมิถุนายนให้เกษตรกรแล้ว 7,051,605 ราย เป็นเงิน 35,258 ล้านบาท เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ รวมการจ่ายเงิน 2 งวด 71,549.96 ล้านบาท

สำหรับรายชื่อเกษตรกร ที่กระทรวงเกษตรฯ ส่งมาเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 1 -14 มิถุนายน จะทยอยโอนเงินงวดที่ 2 ให้ตั้งแต่วันที่ 22 – 25 มิถุนายน ส่วนที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีธนาคาร ซึ่งเกษตรกรแจ้งข้อมูลเข้ามาเพิ่ม 59,519 ราย หากได้รับคำยืนยันจากธนาคารต่างๆ จะโอนให้ทันที

ส่วนที่ยังไม่สามารถโอนได้มี 141,895 ราย เนื่องจากเกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ยังไม่แจ้งเลขบัญชี จึงขอให้เกษตรกรแจ้งบัญชีผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com โดยเป็นบัญชีธนาคารใดก็ได้ รวมทั้งพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดับภูมิภาคซึ่งจะไปติดต่อถึงบ้าน หากได้รับแจ้งเลขบัญชีและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว ธ.ก.ส.จะโอนให้ทันที

สำหรับรอบการโอนเงิน ให้เกษตรกรในกลุ่มที่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารอื่น ในวันที่ 22-23 มิถุนายน 2563 เพิ่มอีก 178,112 ราย นั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563 ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการจ่ายเงินเพิ่มเติม 64,038 ราย ประกอบด้วย

  • โอนเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ในงวดที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2563 จำนวน 18,478 ราย เป็นจำนวนเงิน 92,390,000 บาท
  • โอนเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ในงวดที่ 2 เดือนมิถุนายน 2563 จำนวน 45,560 ราย เป็นจำนวนเงิน 227,800,000 บาท

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2563 ธ.ก.ส. โอนเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ในงวดที่ 2 เดือนมิถุนายน 2563 อีกจำนวน 114,074 ราย เป็นจำนวนเงิน 570,370,000 บาท

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบสิทธิ์รับเงินของตนเอง รวมทั้ง แจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารรับโอนเงิน หรือ พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักได้ที่ www.moac.go.th เมนู เยียวยาเกษตรกร.com หรือ คลิกที่นี่ และหากต้องการตรวจสอบสถานะอุทธรณ์ก็สามารถเข้าไปในเมนู ตรวจสอบสถานะอุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร ในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เช่นกัน

เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์รอบ 2
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรแล้ว 2 งวด เกษตรกรประมาณ 7.1 ล้านคน ส่วนเกษตรกรอุทธรณ์ มายังกระทรวงเกษตรฯ ประมาณ 190,000 รายนั้น คณะกรรมการพิจารณาการอุทธรณ์พิจารณาตามหลักเกณฑ์และมติ ครม.พบว่า ข้ออุทธรณ์ของเกษตรกรบางกลุ่มตกไป ได้แก่ ข้าราชการ ข้าราชบำนาญ และลูกจ้างราชการ ตลอดจนผู้ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการอื่นของรัฐไปแล้ว

ขณะนี้เหลือข้ออุทธรณ์ของเกษตรกรกว่า 50,000 ราย ทั้งหน่วยงานรับขึ้นทะเบียนระดับท้องถิ่น ระดับกรม และคณะกรรมการฯ จะเร่งพิจารณา หากมีคุณสมบัติครบและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการอื่นใด กระทรวงเกษตรฯ จะให้สิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร

นอกจากนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือ ผู้กู้ยืม (ลูกหนี้กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านหนี้สิน โดยยกเว้นดอกเบี้ยผู้กู้ยืมในอัตรา 0% ต่อปีของเงินต้น ยกเว้นลูกหนี้ที่ถูกดำเนินคดีและศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำพิพากษาตามยอมแล้ว งดขายทอดตลาดแก่ผู้กู้ยืม/ผู้ค้ำประกัน และชะลอการบังคับคดีแก่ผู้กู้ยืม/ผู้ค้ำประกัน เว้นแต่กรณีใกล้สิ้นระยะเวลาบังคับคดี

เยียวยาเกษตรกรตรวจสอบสิทธิ์รอบ 2

อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมสหกรณ์ รายงานถึงมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนภาระหนี้สินของสหกรณ์ และสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งมี 2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนภาระหนี้สินของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร 710 แห่ง โดยประสานความร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ผ่อนผันการชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบ 48,800 ล้านบาท ขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้สหกรณ์ ไม่เกิน 20 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก

ขอสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราไม่ต่ำกว่า MLR-1 ต่อปี ส่วนสหกรณ์ที่เป็นลูกหนี้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) จำนวน 917 แห่ง เงินต้น 2,613.89 ล้านบาท ให้ขยายเวลาชำระหนี้ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยสหกรณ์จะต้องผ่อนผันขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่สมาชิกผู้กู้เงินจากสหกรณ์เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงมีสมาชิก 108,740 ราย ได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ เฉลี่ยรายละ 24,000 บาท

ด้านกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 1,392 กลุ่ม มูลหนี้ 704.98 ล้านบาท จะได้รับการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระออกไปอีก 1 ปี คือ ขยายเวลาชำระหนี้ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยกลุ่มเกษตรกรจะต้องผ่อนผันขยายระยะเวลาการชำระหนี้และงดคิดดอกเบี้ยรวมถึงค่าปรับกับสมาชิก ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มเกษตรกร 111,360 ราย โดยได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ เฉลี่ยรายละ 6,330 บาท

สำหรับมาตรการที่ 2 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ออกประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินและปรับโครงสร้างหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ โดยผ่อนผันขยายระยะเวลาชำระหนี้และ/หรือพักชำระหนี้ของสหกรณ์ภาคการเกษตรและนอกภาคการเกษตร 2,660 แห่ง สมาชิกได้รับผลประโยชน์ 5.79 ล้านคน ต้นเงินกู้ 1,296,843.76 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 223,000 บาท ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50 คิดเป็นมูลค่าดอกเบี้ยที่ปรับลด 6,480 ล้านบาท

ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ NPL ลดลง คิดเป็นมูลค่า 2,420 ล้านบาท สำหรับการถือหุ้นของสมาชิกให้ปรับลดหรืองดส่งค่าหุ้นรายเดือนและการงดหักส่งค่าหุ้นตามส่วนเงินกู้ ของสหกรณ์ ออมทรัพย์ 561 แห่ง ปรับลดหรืองดส่งค่าหุ้นรายเดือนให้สมาชิก 580,000 ราย เป็นเงิน 996 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo