Politics

‘บรรยิน’ แถลงถูกปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ รับคิดฆ่าตัวตายจริง

‘บรรยิน’ แถลงศาลถูกปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ ถูกจับขังเดี่ยว ใส่ตรวนตลอดเวลา เพิ่งรู้ข่าวแผนแหกคุก รับคิดฆ่าตัวตายจริง

วันนี้ (22 มิ.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อท.69/2563 อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563

Former 1

พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายมานัส ทับทิม อายุ 67 ปี, นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 48 ปี, นายชาติชาย เมณฑ์กูล อายุ 31 ปี, นายประชาวิทย์ หรือตูน ศรีทองสุข อายุ 33 ปี, ด.ต.ธงชัย หรือ สจ.อ๊อด วจีสัจจะ อายุ 63 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นจำเลยที่ 1-6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยได้เดินเข้าห้องมาด้วยชุดผู้ต้องขัง ติดตรวนเท้า ถือหน้ากากอนามัย  สีหน้ายิ้ม เป็นปกติ และเข้ามาปรึกษาทนายความ รวมถึงอ่านหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง

ภายในห้องนอกจาก ทนายจำเลย 3 คน อัยการโจทก์ 1 คน ยังมีตำรวจจากหน่วยหนุมาน และเจ้าพนักงานตำรวจศาล นั่งกระจายรอบๆ ห้องพิจารณา ต่อมาเวลา 10.45 น. ศาลได้ลงออกนั่งบัลลังก์ เริ่มพิจารณา

อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  แถลงว่า อยู่ในเรือนจำไม่มีที่เก็บเอกสาร ไม่ได้อ่านสำนวนเลย ถูกจับขังเดี่ยว ถูกใส่ตรวนตลอดเวลา ปฏิบัติเยี่ยงสัตว์

ตนไม่มีโอกาสดูเอกสารทั้ง 10 แฟ้ม จะให้ทนายทำให้ ก็จะเสียเปรียบ เพราะทนายไม่ได้ไปอุ้มกับตนด้วย รวมทั้งหลักฐานที่เป็นคลิป จากกล้องวงจรปิด ที่ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบ ถ้าได้ประกันตัวตนรับได้ เนื่องจากตนต้องไปสืบพยาน ที่ศาลอาญาพระโขนงทุกสัปดาห์ ตนต้องเตรียมต่อสู้คดีนั้น จนไม่ได้มาสนใจคดีนี้

“ยังมีข่าวเรื่องจะแหกคุก ผมไม่รู้เรื่อง ผมอยู่ในเรือนจำ ถูกพันธนาการตลอดจนเครียดมาก ถึงขั้นผูกคอตาย และทนายที่ดูคดีนี้ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ด้วย”

พร้อมกันนี้ ยังแถลงให้การปฏิเสธ ระบุว่าถูกให้ร้าย กลั่นแกล้ง จากจำเลยที่ 2-6 โดยยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ระหว่างการเดินทางมาขึ้นศาลในวันนี้ มีการคุมเข้มในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง หลังก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวออกมาว่า เขาพยายามที่จะหลบหนีออกจาก เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หรือ บางขวาง

กนะมาขึ้นศาลนั้น เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อเวลา 07.30 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้จัดชุดปฎิบัติการพิเศษเรือนจำบางขวาง โดยมีชุดหน่วยปฎิบัติการพิเศษหนุมาน ของกองปราบปราม พร้อมอาวุธครบมือ กว่า 20 นาย เป็นกำลังสนับสนุน คุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน มายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

บรรยิน

ก่อนที่รถเรือนจำจะเคลื่อนออกมานั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชฑัณฑ์ ได้ออกมาดูความพร้อมในการคุมตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกทางเข้า-ออก เรือนจำกลางบางขวาง เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

จากนั้นในเวลา 08.10 น. ขบวนรถ ที่มีรถของกองปราบนำมาพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน จำนวน 7 คัน มาถึงศาล ซึ่งศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในเวลา 10.00 น. ส่วนจำเลยอีก 5 คนนั้น ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 25 มิถุนายน นี้

การพิจารณาตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ เป็นไปในทางลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในห้องพิจารณา อนุญาตเพียงคู่กรณีเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนทางศาลได้จัดห้องเพื่อถ่ายทอดกระบวนพิจารณา

ก่อนหน้านี้ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ระบุถึงแผนการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกเจ้าพนักงานตำรวจศาล และส่วนที่ 2 ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุชิงตัวจำเลย

การส่งเจ้าหน้าที่มาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองปราบปราม รวมถึงหน่วยพิเศษอื่น ถือว่าเป็นแผนการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด โดยจะมาดูแลทุกนัดที่มาขึ้นศาล พร้อมประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo