การเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงคลองบางไผ่-บางใหญ่ถึงเตาปูน เมื่อปลายปี 2559 ทำให้นนทบุรีเป็นจังหวัดที่ 2 ถัดจากกรุงเทพฯ ที่มีรถไฟฟ้าให้บริการในพื้นที่ ก่อนที่ต่อมาจะมีการเชื่อมต่อการให้บริการช่วงสถานีเตาปูน-บางซื่อ
ส่วนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สำโรง เมื่อเดือนเมษายน 2560 ก็ทำให้สมุทรปราการเป็นจังหวัดที่ 3 ถัดจากนนทุรี ที่มีรถไฟฟ้าให้บริการในพื้นที่ ก่อนที่ในปลายปี 2561 นี้จะมีการขยายการเดินรถไปจนถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ
นับตั้งแต่มีการประกาศโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในพื้นที่สองจังหวัดดังกล่าว ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ก็ได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมขึ้นมากมายในพื้นที่นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยเฉพาะตามแนวเส้นทางที่รถไฟฟ้าผ่านไปถึง
ในแต่ละปีจึงมีห้องชุดสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่จำนวนมากในพื้นที่ทั้งสองจังหวัด โดยในรอบครึ่งปีแรกปี 2561 นี้ นนทบุรีมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่และผ่านการประเมินราคาทุนทรัพย์ห้องชุด 10 โครงการ 13 อาคาร รวมประมาณ 5,200 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท และสมุทรปราการมี 4 โครงการ 9 อาคาร รวมประมาณ 2,200 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,200 ล้านบาท
ในจังหวัดนนทบุรี จำนวนในภาพรวมของครึ่งปีแรกปีนี้ ถือว่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในปี 2559 และปี 2560 กล่าวคือในปี 2559 ทั้งปี มี 16 โครงการ 33 อาคาร รวมประมาณ 7,400 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 11,200 ล้านบาท และในปี 2560 ทั้งปี มี 14 โครงการ 82 อาคาร รวมประมาณ 8,100 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 11,200 ล้านบาท
โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ในจังหวัดนนทบุรีในครึ่งแรกปี 2561 ที่มีความสูงนับเป็นจำนวนชั้นสูงสุด คือ อาคารโครงการดีคอนไพรม์ รัตนาธิเบศร์-ไทรม้า และอาคารโครงการพลัมคอนโด เซ็นทรัลสเตชั่น บางใหญ่ เฟส 2 สูง 38 ชั้นเท่ากัน
รองลงมาคืออาคารโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รัตนาธิเบศร์ สูง 33 ชั้น (ในปี 2560 อาคารโครงการที่มีความสูงเป็นจำนวนชั้นมากที่สุด คือ คาซ่าคอนโด แอท MRT สามแยกบางใหญ่ สูง 39 ชั้น)
หากนับจำนวนหน่วยในผังโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า มีมากที่สุด 1,066 ห้อง พลัมคอนโด 1,016 ห้อง และโครงการลุมพินีวิลล์ พระนั่งเกล้า ริเวอร์วิว มี 909 ห้อง
หากนับพื้นที่ขาย ศุภาลัย เวอเรนด้า มีพื้นที่ขายมากที่สุด 49,300 ตารางเมตร ตามด้วย ศุภาลัย ซิตี้รีสอร์ท แจ้งวัฒนะ 34,700 ตารางเมตร และพลัมคอนโด 27,100 ตารางเมตร ตามลำดับ
หากคำนวณมูลค่าโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า มีมูลค่าโครงการสูงสุดประมาณ 2,550 ล้านบาท ตามด้วยพลัมคอนโดประมาณ 2,000 ล้านบาท และ ศุภาลัยซิตี้รีสอร์ท ประมาณ 1,800 ล้านบาท
ในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวนในภาพรวมของครึ่งปีแรกปีนี้ ถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับในปี 2559 และปี 2560 กล่าวคือในปี 2559 ทั้งปีมี 16 โครงการ 57 อาคาร รวมประมาณ 4,800 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,700 ล้านบาท และในปี 2560 ทั้งปี มี 13 โครงการ 55 อาคาร รวมประมาณ 8,800 ห้อง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,300 ล้านบาท
โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการในครึ่งแรกปี 2561 ที่มีความสูงนับเป็นจำนวนชั้นสูงสุด คือ อาคารโครงการนอตติ้งฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา สูง 34 ชั้น (ในปี 2560 อาคารโครงการที่มีความสูงเป็นจำนวนชั้นมากที่สุด คือ อาคารโครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 สูง 35 ชั้น)
นอตติ้งฮิลล์ เป็นโครงการที่มีจำนวนหน่วยในผังมากที่สุด 984 ห้อง พื้นที่ขายมากที่สุด 47,400 ตารางเมตร และมูลค่าโครงการสูงสุดประมาณ 1,400 ล้านบาท ตามด้วยโครงการเลสโต้ สุขุมวิท 113 มี 791 ห้อง พื้นที่ขาย 32,900 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท และโครงการนิชไอดี สุขุมวิท 113 มี 366 ห้อง พื้นที่ขาย 16,800 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาท
มองจากภาพรวม ถือว่านนทบุรีมีโครงการสร้างเสร็จใหม่มากกว่าสมุทรปราการในครึ่งปีแรกของปีนี้ สาเหตุหลักคงเนื่องมากจากการที่ผู้ประกอบการเกรงความไม่แน่นอนจากการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดในผังเมืองใหม่ของนนทบุรี ที่จะประกาศใช้ในเร็วๆนี้และจะมีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในอนาคต จึงเร่งการพัฒนาโครงการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจะมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายออกไปอีกประมาณ 8 สถานีจากสำโรงไปถึงเคหะสมุทรปราการ จึงคาดหมายว่าในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป ความคึกคักในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม จะโยกกลับไปสู่พื้นที่สมุทรปราการอีกครั้งหนึ่ง
