โควิดระบาดรอบ 2 ไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย มอร์แกน สแตนเลย์ มั่นใจ ภูมิภาคนี้มีแนวโน้มที่จะบริหารจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้ดีกว่าเดิม เพราะเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย มีประสบการณ์รับมือกับเรื่องนี้มาแล้ว
นางเต้อยี ตัน นักเศรษฐศาสตร์ และกรรมการผู้จัดการ จาก มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ แสดงความเห็นว่า หากเอเชีย ต้องเผชิญกับการระบาดรอบใหม่ ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีแนวโน้มว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เหมือนกับการระบาดในครั้งแรก เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศของภูมิภาคนี้ อย่างจีน และเกาหลีใต้ ที่ต้องรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นมาใหม่
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั่วโลกเกิดความกังวลว่า การระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะยากลำบากอีกครั้งหนึ่ง จากการที่นานาชาติเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม และป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรก ที่ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดตกอยู่ในภาวะชะงักงันนั้น ทำให้เศรษฐกิจโลกร่วงลงไปอยู่ในภาวะถดถอย
แต่นางตัน แสดงความเห็นว่า ถ้าหากเกิด การระบาดรอบ 2 ขึ้นมาจริง ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปในแบบที่สามารถบริหารจัดการได้ เพราะเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศต่างๆ ล้วนเรียนรู้วิธีการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว
“เราไม่ได้คิดถึงภาวะซบเซาแบบ 2 ครั้งซ้อนเลย เราตระหนักดีว่า เมื่อโลกกลับมาเปิดเศรษฐกิจใหม่ จำนวนผู้ติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ เราคาดว่าการระบาดรอบ 2 จะไม่ทำให้เศรษฐกิจโลก หรือเศรษฐกิจเอเชียดิ่งลงไปอีก”
เธอบอกด้วยว่า หลายประเทศ และดินแดนในเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง ต่างเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ มาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา ต่างก็รายงานถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
“แต่ถ้ามองในภาพรวมขนาดใหญ่แล้ว แนวโน้มที่เกิดขึ้น ค่อนข้างบริหารจัดการได้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเห็นมาก่อนหน้านี้”
จีนนำเศรษฐกิจเอเชียฟื้นตัว
สำหรับในเอเชียนั้น แม้จะมีการกลับมาพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ของมอร์แกน สแตนเลย์ รวมถึง นางตัน ต่างเชื่อว่า เศรษฐกิจเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น จะฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่า ภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ภายใต้การนำของจีน
วาณิชธนกิจสหรัฐรายนี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น จะโตขึ้นเล็กน้อย 0.1% ในปีนี้ ก่อนจะพุ่งขึ้นไปถึง 8.5% ในปี 2564
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย (Asian Development Outlook: ADO) ประจำปี 2563 ที่คาดการณ์ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชีย จะลดลงอย่างมากในปีนี้ เพราได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นในปี 2564
รายงานประเมินว่า ในปี 2563 เศรษฐกิจเอเชีย จะเติบโต 2.2% ลดลง 3.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.5% เมื่อเดือนกันยายน 2562 แต่คาดว่าภูมิภาคจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งที่ 6.2% ในปี 2564 หากการแพร่ระบาดยุติลงและกิจกรรมต่างๆ ดำเนินได้ตามปกติ
เอดีบีคาดว่า เศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชีย ไม่รวม ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน จะเติบโต 2.4% ในปี 2563 เทียบกับ 5.7% ในปี 2562 ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 6.7% ในปีหน้า
โควิดระบาดรอบ 2 คุมยาก
ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan เตือนว่า ถ้าโควิดระบาดรอบ 2 จะควบคุมยากกว่ารอบแรก และ โอกาสที่จะไปใช้มาตรการแบบครั้งแรกจะยากขึ้น เพราะทุกคนเดือดร้อน
ศ.นพ.ยง บอกด้วยว่า ในการควบคุมการระบาดรอบ 2 ของโรค มีการให้ความสำคัญกับผู้ที่ไม่มีอาการด้วย จึงมีการตรวจเชิงรุก สุ่มในประชากรที่เป็นกลุ่มก้อน หรือในแหล่งระบาดโรค ซึ่งในฤดูฝน ความชื้น และอุณหภูมิที่ลดลง จะทำให้เชื้อ โควิด-19 อยู่ได้นานขึ้น การแพร่กระจายก็จะได้ง่ายขึ้นกว่าฤดูร้อนเดือนเมษายน และพฤษภาคม แน่นอน
เช่นเดียวกับ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ได้ออกมาบอกเช่นกันว่า โอกาสที่จะมีการระบาด 2 มีแน่ และว่า รอบแรกคนตายจำนวนหนึ่ง แต่รอบ 2 จะมีคนตายมากกว่ารอบแรก กว่าเท่าตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ห้ามออกนอกเมือง! ปักกิ่งเพิ่มมาตรการเข้มสกัด ‘โควิด’ ระบาดรอบ 2
- โควิดระบาดรอบ 2 แนวโน้มสูง ทั่วโลกเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม หลังคลายล็อก
- ‘นพ.ยง’ ชี้หน้าฝน ‘โควิด’ อยู่นานขึ้น เตือน! ระบาดรอบสองคุมยาก