COVID-19

คลายล็อก ดันผู้โดยสารรถไฟ ทะลัก 2.6 หมื่นคน

ผู้โดยสารรถไฟ แห่เดินทางรับคลายล็อกดาวน์ 26,225 คน หลังเปิดเดินขบวนรถเพิ่ม ปัจจุบันเปิดเดินรถแล้ว 169 ขบวน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดให้รถโดยสารสาธารณะ สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ ภายใต้มาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในระยะที่ 3 พบว่า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2563 มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 26,225 คน

รถไฟ

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการเปิดเดินขบวนรถโดยสารพิเศษออกไปอีก 30 วัน เป็นการเพิ่มเติม

สำหรับผู้เดินทางในวันแรกของการเปิดเดินขบวนรถเพิ่มเติม จากผู้ใช้บริการ 26,225 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพ จำนวน 13,733 คน และผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพ จำนวน 12,492 คน

ทั้งนี้ เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นที่สุด คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 7,446 คน รองลงมาคือสายใต้ จำนวน 5,804 คน สายเหนือ 5,722 คน สายตะวันออก 4,441 คน และสายแม่กลอง 2,812 คน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 43%เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 10 มิ.ย.63 ที่มีผู้โดยสารเดินทางเพียง 18,218 คน

ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่า ในวันที่ 12 มิถุนายน 2563 จะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะเปิดเดินขบวนรถครบ ทั้งขาเข้าและขาออก และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยคาดว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน

ปัจจุบัน มีขบวนรถที่ให้บริการทั้งหมด จำนวน 169 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 11 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 152 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถโดยสารพิเศษ จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ) ที่ขยายเวลาให้บริการเพิ่มอีก 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17มิ.ย. – 17 ก.ค.63)

นิรุฒ มณีพันธ์
นิรุฒ มณีพันธ์

ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย

  • ให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ เฟซชิลด์ ตลอดเวลาที่ให้บริการ
  • มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น
  • การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ
  • การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับรถนั่งชั้น 2 – 3 ไว้ที่ 50 %ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถนอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 ได้กำหนดจุดที่นั่ง ก่อนที่จะมีการปรับเก้าอี้เป็นเตียงนอน ทั้งเตียงบนและเตียงล่าง เพื่อให้มีการรักษาระยะห่าง และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ

หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว

นอกจากนี้ รฟท. ได้ขอความร่วมมือผู้โดยสาร ให้ทำการกรอกรายละเอียด ในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo