Business

อุตสาหกรรมร่วมJCCให้ข้อมูลเชิงลึกดึงนักลงทุนญี่ปุ่น

EEC2
ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม

กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JCC) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Eastern Economic Corridor (EEC) Workshop ให้กับนักลงทุนญี่ปุ่น ที่มีความสนใจที่จะลงทุนในพื้นที่ ECC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ รูปแบบการลงทุน พร้อมกันนี้ได้เผยถึงความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ จำนวน 4 หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ สำนักงาน BOI สำนักงาน EEC การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรมสรรพากร เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในเขต EEC

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาฯ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ นายมิจิโนบุ ซึงาตะ, นายฺฮิโรกิ มิตสึมาตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น, ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมด้วยนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และนักลงทุนของญี่ปุ่น กว่า 100 ราย เข้าร่วมเวิร์กช้อปในครั้งนี้

ดร.อุตตม กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า รัฐบาลทราบว่านักลงทุนญี่ปุ่น มีความสนใจที่จะทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ รูปแบบการลงทุน และความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ดังนั้น JCC JETRO และ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ร่วมกันจัดงานเพื่อให้ข้อมูลสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ดีกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งหวังให้โครงการ EEC เป็นการสร้างฐานความเจริญใหม่ที่มีศักยภาพสูง ที่จะนำไปสู่การเจริญเติบโตแบบทั่วถึงทุกภาคส่วน ในรูปแบบ WIN-WIN ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นในพื้นที่ EEC จำนวนกว่า 1,000 บริษัท ที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว JCC และ JETRO ได้สำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่น ที่มีต่อการลงทุนและทำธุรกิจในไทย พบว่า มีทิศทางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2560 เพิ่มขึ้นจากระดับ 14 เป็น 30 และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 36 ในช่วงครึ่งปีหลัง ก่อนปรับขึ้นมาเป็น 40 ในครึ่งแรกของปี 2561 ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ดร.ณัฐพล รังสิตพล
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ด้านดร.ณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาในเชิงพื้นที่ EEC รัฐบาลยังได้วางยุทธศาสตร์ในการเพิ่มขีดความสามารถ และศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย โดยกำหนด Roadmap การพัฒนาและขับเคลื่อน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่เป็นกำลังหลักของภาคอุตสาหกรรมของไทย ในการพัฒนาและขับเคลื่อน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (S-Curve Industry)

โดยขอยกตัวอย่างการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก และครม. ให้ความเห็นชอบในมาตรการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยใช้ศักยภาพของไทยที่เป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าหลักภายในประเทศ

รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อระดับสากล เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน และนวัตกรรม รองรับการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต ในขณะนี้ทาง สศอ. อยู่ระหว่างเสนอมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า โดยบูรณาการทำงานร่วมกันกับกรมสรรพสามิต และ BOI เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิต วิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งชิ้นส่วน โดยผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งจะทำให้ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์นี้ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ถือเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนการยกระดับสู่ Industry 4.0

โดยได้กำหนดแนวทางพัฒนาโดยใช้มาตรการขับเคลื่อนแบบผสมผสาน เน้นการส่งเสริมให้ SMEs ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต ด้วยการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มผลิตภาพ และแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวได้อีกทางหนึ่ง ควบคู่กับการส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรม อุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio-Industry) ซึ่งไทยมีศักยภาพในเรื่องวัตถุดิบและความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์ม อีกทั้งยังมีความพร้อมของฐานอุตสาหกรรมเดิม ที่สามารถพัฒนาไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-economy)

EEC1
บรรยากาศการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Eastern Economic Corridor (EEC) Workshop

การสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จะสร้างความชัดเจนให้กับนักลงทุนในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ EEC และจะนำไปสู่การตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC โดยรัฐบาลไทยพร้อมประสานกับรัฐบาลญี่ปุ่น ในการให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวก รวมถึงดูแลผู้ประกอบการและนักลงทุนญี่ปุ่นด้วยมาตรการพิเศษที่เหมาะสมและโปร่งใส เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระยะยาวให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนต่อไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight